This is 'คำนี้ดี Featuring.'
นี่คือรายการ คำนี้ดี ฟีเจอริง My name is Bick, and welcome to the show.
ผมชื่อบิ๊ก ยินดีต้องรับเข้าสู่รายการ So, our guest today,
I think, needs no introduction.
แขกรับเชิญของเราวันนี้ ไม่จำเป็นต้องแนะนำใดๆ I mean, especially
if you are following the news.
โดยเฉพาะสำหรับคนที่ติดตามข่าวสาร we all know who she is,
เราจะรู้อยู่แล้วว่าเธอคือใคร what she does,
ทำอะไร what she's good at,
เก่งด้านไหน what she's known for,
เป็นที่รู้จักในเรื่องอะไร and practically,
her every move is reported on social media.
จริงๆ แล้วทุกการย่างก้าวของเธอมักจะถูกรายงานบนโซเชียล So, we all know what she's doing,
ฉะนั้น เราก็จะรู้ว่าเธอกำลังทำอะไร what she's saying,
กำลังพูดอะไร who she's meeting with.
กำลังไปพูดคุยกับใคร But let me tell you
why I'm so excited to have her on the show today.
ผมขอบอกก่อนว่าทำไมวันนี้ผมตื่นเต้นเป็นพิเศษ
ที่เธอมาในรายการวันนี้ Number one, I think she's so interesting,
ข้อแรก ผมคิดว่าเธอน่าสนใจมาก and it's been such a long time
that we've talked to a politician on the show.
แถมเราไม่ได้คุยกับนักการเมืองในรายการมาสักพักใหญ่แล้ว Number two, this will be our first
female politician guest on the show as well.
ข้อสองคือเธอจะเป็นนักการเมืองหญิงคนแรกในรายการเราด้วย And number three, she's so sweet and nice,
และข้อที่สาม เธอทั้งสวยหวานน่ารัก but fierce and formidable at the same time,
แต่ก็ดุ ฟาด น่าเกรงกลัวในเวลาเดียวกัน and I love that combination in a person.
และผมชอบส่วนผสมนี้ในคนๆ หนึ่งสุดๆ So, let's find out what we can learn from her today.
มาดูกันว่าวันนี้เราจะได้เรียนรู้อะไรจากเธอบ้าง คุณไหม ศิริกัญญา สวัสดีครับ [Mai] สวัสดีค่ะ [Bick] Hi!
[Bick] สวัสดีครับ! [Mai] Hi, thank you for having me today.
[ไหม] ขอบคุณที่เชิญไหมมาวันนี้ค่ะ [Bick] Of course, and thank you so much for coming
[บิ๊ก] แน่นอนครับ ขอบคุณมากๆ ที่คุณไหมมา and spending time with us on a Friday evening like this.
ใช้เวลาร่วมกับเราในเย็นวันศุกร์แบบนี้ [Mai] It's my pleasure.
[ไหม] ด้วยความยินดีค่ะ I've been longing for being on this show for some time,
ไหมอยากมารายการนี้มานานแล้ว since Khun Pita was here.
ตั้งแต่ที่เห็นคุณพิธามาครั้งก่อน [Bick] It's our honor.
[บิ๊ก] เป็นเกียรติของพวกเราจริงๆ ค่ะ By the way, how do you typically
spend your Friday night?
เอาล่ะ ปกติแล้วคุณไหมทำอะไรในคืนวันศุกร์ครับ Do you even have the concept of like,
คุณไหมมีอารมณ์แบบ "Friday night, yay, the next two days are free,"
“คืนวันศุกร์ เย้! อีกสองวันไม่ต้องทำอะไร!” or do you work seven days a week?
หรือว่าคุณไหมทำงานเจ็ดวันต่อสัปดาห์ [Mai] Of course, it marks the day that the weekend begins.
[ไหม] แน่ค่ะว่ามันเป็นหมุดหมายของวันสุดสัปดาห์ But normally, I have to work through the weekend.
แต่ปกติแล้ว ไหมต้องทำงานช่วงสุดสัปดาห์ด้วย Still, Saturday will be the day
that I don't have to wake up early,
ยังไงก็ตาม วันเสาร์ก็เป็นวันที่ไหมไม่ต้องตื่นเช้า so I could spend time in my bed
until late morning and stuff like that.
และใช้เวลาบนเตียงสบายๆ ได้จนสายอะไรแบบนั้น [Bick] You do sleep in sometimes too.
[บิ๊ก] คุณไหมก็นอนตื่นสายด้วยเหรอ [Mai] Yeah, of course.
[ไหม] ใช่ค่ะ ต้องมีบ้าง [Bick] That's good.
[บิ๊ก] ดีครับ [Mai] But actually, this time of the week,
[ไหม] แต่จริงๆ ปกติเวลาศุกร์เย็นแบบนี้ I will be in a meeting somewhere, somehow.
ไหมน่าจะประชุมอยู่ที่ไหนสักที่ กับใครสักคนค่ะ [Bick] So, we kind of, in a way,
pull you away from the meeting rooms.
เพราะงั้นก็เหมือนพวกเราก็ดึงคุณไหมออกจากห้องประชุมกลายๆ สินะ [Mai] A little bit, yes.
[ไหม] ประมาณนั้นค่ะ ใช่ [Bick] It could be a good thing, right?
[บิ๊ก] ก็เป็นเรื่องที่ดีเนอะ Thank you so much for being here.
ขอบคุณที่มานะครับ [Mai] Of course, I'm happy to be here.
[ไหม] ค่ะ ไหมดีใจที่ได้มา [Bick] Alright, well, our show is not a political show, of course,
[บิ๊ก] เอาล่ะ แน่นอนว่าเราไม่ใช่รายการการเมือง but we are happy to talk politics.
แต่เราคุยการเมืองได้นะครับ More importantly, we are interested in people.
ที่สำคัญกว่านั้นคือเราสนใจในตัวคน So today, let's get to know you
not just as a politician,
ฉะนั้นวันนี้มาทำความรู้จักคุณไหม ไม่ใช่ในฐานะนักการเมือง but as a person,
แต่ในฐานะคนๆ หนึ่ง a very interesting person
who's doing great things for our country.
ที่น่าสนใจและทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศเรา But first of all, may I ask,
แต่ก่อนอื่น ผมขอถามได้ไหมครับ how did you get here to THE STANDARD today?
วันนี้คุณไหมมาเดอะสแตนดาร์ดยังไง [Mai] I drove here from the parliament.
[ไหม] ขับรถมาจากสภาค่ะ [Bick] Okay, and actually, I just learned that
[บิ๊ก] โอเค จริงๆ แล้วผมเพิ่งรู้ว่า you just started driving for the past two weeks.
คุณเพิ่งเรียนขับรถเมื่อสองอาทิตย์ก่อนนี่เอง You didn't drive before.
แต่ก่อนคุณไหมไม่ขับรถ [Mai] No.
[ไหม] ไม่ค่ะ [Bick] And it's not that you knew how to drive,
[บิ๊ก] แล้วก็ไม่ใช่ว่าคุณขับเป็นด้วยสิ but you didn't know how to drive,
คุณขับไม่เป็น and you taught yourself how to drive.
แล้วก็เพิ่งได้ฝึกขับด้วยตัวเอง [Mai] Actually, I learned how to drive like 30 years ago
[ไหม] จริงๆ ไหมเรียนขับรถตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว when I was around 15 or 16.
ช่วง 15 หรือ 16 At the time, it was still the manual gear and stuff like that.
ตอนนั้นก็ยังเป็นเกียร์กระปุกอยู่เลย [Bick] I remember those days.
[บิ๊ก] ผมจำสมัยนั้นได้ So you have to relearn it.
เพราะงั้นก็ต้องฝึกใหม่สินะ [Mai] Yeah, so I have to relearn it
[ไหม] ใช่ค่ะ ก็ต้องเรียนรู้ใหม่ because I decided to go for
public transportation for a long time.
เพราะเคยตัดสินใจใช้ขนส่งสาธารณะมานาน But then, as a politician right now,
แต่ด้วยบทบาทนักการเมืองตอนนี้ I have to be in a lot of places in the same day,
ในหนึ่งวัน ไหมต้องเดินทางไปหลายที่ค่ะ so it's better to drive.
ขับรถก็เลยสะดวกกว่า [Bick] Welcome to the real world
[บิ๊ก] ยินดีต้อนรับสู่โลกจริง and on the Bangkok street like most of us.
บนถนนกรุงเทพฯ อย่างพวกเรานะครับ But actually, you've already used
public transportation in Bangkok, right?
แต่คุณก็ใช้ขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ อยู่แล้วเนาะ Alright, so let's go back a little bit.
เอาล่ะ มาย้อนเวลากันสักหน่อย How far back should we go?
ย้อนไกลแค่ไหนดีนะ How about เด็กหญิงศิริกัญญา at the age of 10?
เอาเป็นเด็กหญิงศิริกัญญาในวัย 10 ขวบดีไหม So, what do you remember about those days,
คุณมีความทรงจำอะไรในสมัยนั้นบ้าง around ป.4 probably?
น่าจะราวๆ ป.4 [Mai] At that time, I was like a timid girl
studying in front of the class
[ไหม] ช่วงนั้นไหมน่าจะเป็นเด็กหน้าห้องขี้เขิน and performing very well in school and stuff like that.
ที่ผลการเรียนดีมาก อะไรประมาณนั้นค่ะ [Bick] You were great in school,
that's what all of us have heard.
[บิ๊ก] คุณไหมเป็นเด็กเรียนดี นั่นคือที่เราได้ยินมา [Mai] And very shy. I mean, I didn't talk much.
[ไหม] แล้วก็ขี้อายมาก ไม่ค่อยพูด At the age of 10, I still hadn't had my first English class yet
ช่วง 10 ขวบยังไม่ได้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษเลยด้วย because I attended a public school,
เพราะไหมเรียนโรงเรียนรัฐบาล so the first English class was in the fifth grade.
ฉะนั้นเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษครั้งแรกคือป.5 [Bick] I see, okay.
[บิ๊ก] อ๋อ โอเคครับ But later in life, you got to spend time in English-speaking countries
แต่หลังจากนั้น คุณก็ได้ไปอยู่ประเทศที่พูดอังกฤษด้วย and actually French-speaking countries,
จริงๆ เป็นประเทศที่ผู้ฝรั่งเศส so you did get to spend time abroad,
เพราะงั้นคุณไหมเลยได้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ต่างประเทศ and you kind of adopted English
as your second language too.
แล้วก็ได้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองด้วย [Mai] Yes,
[ไหม] ค่ะ but since I was born
in a middle-class family,
แต่ด้วยความที่ไหมเกิดในครอบครัวฐานะปานกลาง not so middle, maybe prone to
low to middle-class family,
ไม่ใช่กลางสิ อาจจะต้องบอกว่าชั้นล่างค่อนกลางค่ะ we couldn't afford sending me to an exchange program,
ครอบครัวไม่สามารถส่งไหมไปโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน to AFS, to spend summer course abroad.
ไปเอเอฟเอส เรียนต่างประเทศช่วงปิดเทอมฤดูร้อน So, I had to learn it by myself.
ฉะนั้นไหมจึงต้องเรียนด้วยตัวเอง And the first time I went abroad was to work
ซึ่งครั้งแรกที่ไปต่างประเทศก็คือไปทำงาน in a work and travel program in New Jersey
ในโครงการ Work and Travel ที่รัฐนิวเจอซีย์ สหรัฐฯ at Six Flags Great Adventure.
ที่สวนสนุก ซิกส์ แฟลกซ์ เกรท แอดเวนเจอร์ I was a ride operator at that time.
ตอนนั้นเป็นคนคุมเครื่องเล่นค่ะ [Bick] Did you have fun?
[บิ๊ก] สนุกไหมครับ [Mai] Of course, it was a fun three months,
[ไหม] แน่นอนค่ะ เป็นช่วง 3 เดือนที่สนุกสนาน very short but sweet and fun.
ค่อนข้างสั้น แต่เป็นประสบการณ์ที่สนุกและหอมหวาน [Bick] What else did you do for fun in school days?
[บิ๊ก] สมัยเรียน คุณไหมทำอะไรสนุกๆ บ้าง [Mai] During school days?
[ไหม] ช่วงสมัยเรียนเหรอคะ You mean during the high school or...?
หมายถึงมัธยมหรือว่า… [Bick] Yeah, high school or university.
[บิ๊ก] ครับ มัธยมหรือมหา’ลัยก็ได้ [Mai] High school was pretty tough for me
because I was in Triam Udom Suksa,
[ไหม] สำหรับไหมช่วงมัธยมค่อนข้างหนักเพราะเราเด็กเตรียมฯ and it's very, very competitive.
การแข่งขันดุเดือดมาก So yeah, we didn't do much for fun,
เพราะงั้นก็ ไม่ได้ทำอะไรมากเพื่อความสนุกสนาน we just studied and studied and studied.
มีแต่เรียน เรียน แล้วก็เรียน So I began the fun life in college.
ช่วงชีวิตสนุกๆ ก็จะเริ่มขึ้นช่วงมหา’ลัย We did a lot of activities.
ได้ทำกิจกรรมเยอะแยะมากมาย I started a folk band with friends,
ไหมตั้งวงโฟล์คแบนด์กับเพื่อน where I was the vocalist.
โดยที่ตัวเองเป็นนักร้อง So, we practiced during the evenings and stuff like that.
ตกเย็นมาก็ซ้อมดนตรีกัน อะไรแบบนั้น [Bick] So you sing well.
[บิ๊ก] งั้นคุณก็ร้องเพลงเพราะ So, do you belong to the Move Forward party then? Because…
แล้วคุณจะเหมาะกับพรรคก้าวไกลเหรอเนี่ย เพราะ… [Mai] I was the one who would bring up
the mean of the singing force.
[ไหม] ไหมเป็นคนดึงค่าเฉลี่ยทักษะการร้องเพลงขึ้น [Bick] Yeah, the singing ability.
[บิ๊ก] ใช่เลย ทักษะการร้องเพลง Okay, good things.
เป็นเรื่องที่ดีนะครับ So, yeah, you sing.
โอเคคุณร้องเพลงได้ You were singing in the band.
เคยร้องเป็นวงด้วย What else do you do?
คุณไหมทำอะไรอีกบ้าง Do you travel at all?
ชอบเที่ยวไหม Do you do freelance jobs anywhere?
ได้รับงานฟรีแลนซ์ที่ไหนบ้างหรือเปล่า [Mai] Not quite.
[ไหม] ไม่ค่อยนะคะ I was doing some extracurricular activities.
มีแต่ทำกิจกรรมนอกหลักสูตรบ้าง I was on student committees,
ไหมอยู่ในคณะกรรมการนักศึกษา and we held a lot of seminars and stuff like that.
จัดสัมนาเยอะแยะอะไรแบบนั้น You know, very nerdy stuff.
เรื่องเนิร์ดๆ น่ะค่ะ [Bick] So, did you at any point imagine yourself
becoming a politician in those days?
[Mai] No way!
[บิ๊ก] ถ้างั้นเคยจินตนาการภาพตัวเองเป็นนักการเมืองไหม
[ไหม] ไม่มีทาง! [Bick] No?
[บิ๊ก] ไม่เหรอ [Mai] No way, come on.
[ไหม] ไม่เลยค่ะ ไม่เอาสิคะ [Bick] What did you think about politicians in those days
[บิ๊ก] ตอนนั้นคิดอย่างไรกับนักการเมืองสมัยนั้นครับ [Mai] I mean, it was kind of in my bucket list to be a politician,
[ไหม] คือการเป็นนักการเมืองก็อยู่ในสิ่งที่อยากทำก่อนตาย but you know, back at the time,
แต่สมัยนั้นน่ะค่ะ who would have thought that
a normal girl would become a politician?
ใครจะไปคิดว่าเด็กหญิงธรรมดาๆ จะเป็นนักการเมืองได้ You should have the last name,
นามสกุลคุณต้องใหญ่ the money,
มีเงิน or the fame somehow to become a politician.
ไม่ก็มีชื่อเสียงพอที่จะเป็นนักการเมือง [Bick] So, that's the perception of yours
about politicians back in those days,
[บิ๊ก] นั่นคือภาพของนักการเมืองในหัวคุณสมัยนั้น that you had to be someone from some type of family,
ต้องเป็นคนมีหน้ามีตา เป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ have some kind of money in order to become a politician?
มีเงินทองพอที่จะเป็นนักการเมือง [Mai] Sure. At that time, it's not like an open club,
[ไหม] แน่นอนค่ะ ตอนนั้นมันไม่ใช่ใครก็ได้ so you've got to belong to…
คุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของ… [Bick] So it's not like you didn't want to,
[บิ๊ก] นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณก็ไม่อยากเป็น but you didn't think you could get into this exclusive club.
แต่คุณไหมคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถเข้าวงการเฉพาะแบบนี้ได้ [Mai] When I was growing up
during my master's degree, I guess,
[ไหม] เดาว่าน่าจะช่วงป.โท I started to study public policy, the policymaking process.
ไหมเริ่มศึกษานโยบายสาธารณะ กระบวนการทำนโยบาย So, I think there are a lot of problems during the process.
จึงได้รู้ว่าในกระบวนการเต็มไปด้วยปัญหามากมาย So, it's better to become a politician
just to change the process, to get it better.
การเป็นนักการเมืองเพื่อเปลี่ยนและพัฒนากระบวนการนั้นดีกว่า But, no one would have thought that…
แต่คงไม่มีใครคาดคิด… [Bick] It would be too much or too difficult to reach.
[บิ๊ก] มันคงเหลือบ่ากว่าแรงหรือยากเกินเอื้อม But one day, Khun Chaithawat came along
แล้ววันหนึ่งคุณชัยธวัชก็เข้ามา and asked you to join.
แล้วเชิญให้คุณไปเข้าร่วม [Mai] Right.
[ไหม] ใช่ค่ะ [Bick] Tell us about those days. What do you remember?
[บิ๊ก] เล่าเรื่องช่วงนั้นให้ฟังหน่อย คุณจำอะไรได้บ้างครับ [Mai] I was kind of finding a new job right at that moment,
[ไหม] ตอนนั้นไหมน่าจะกำลังหางานใหม่ค่ะ and then he called and asked if I wanted to be
a policy director of the Future Forward Party.
แล้วเขาก็โทรมาถามว่าสนใจอยากเป็น
ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรคอนาคตใหม่ไหม So, it's not something that
he asked me to become a politician,
เพราะงั้นก็ไม่ใช่ว่าเขาชวนให้เป็นนักการเมือง he asked me to become a policy director for a job,
แค่ชวนให้มาทำงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายค่ะ to be the part of the team.
เป็นส่วนหนึ่งของทีม So, of course, I said yes.
ฉะนั้น แน่นอนว่าไหมตอบตกลง I really longed for a job to work in public policy,
ไหมอยากทำงานด้านนโยบายสาธารณะมากๆ and he offered at the right time.
และคุณชัยธวัชก็มาชวนในเวลาที่เหมาะเจาะพอดี So, I came in and had an interview with Khun Thanathorn.
จากนั้นไหมก็เข้าไปสัมภาษณ์กับคุณธนาธร [Bick] Was it tough getting an interview with him?
[บิ๊ก] สัมภาษณ์กับคุณธนาธรยากไหมครับ [Mai] Yes, it was very tough, I mean…
[ไหม] ยากค่ะ ยากมาก แบบว่า [Bick] I can imagine
[บิ๊ก] นึกออกเลย [Mai] He was very…
[ไหม] เขาเป็นคน… [Bick] But you were tough too, right?
[บิ๊ก] แต่คุณก็แกร่งเหมือนกันนิใช่ไหม [Mai] Of course, but the atmosphere, I mean,
[ไหม] แน่นอนค่ะ แต่บรรยากาศมัน was not so friendly from Thanathorn's side.
ไม่ได้เป็นมิตรนักจากฝั่งคุณธนาธรนะ [Bick] So, was it like one-on-one with Khun Thanathorn,
[บิ๊ก] คุยหนึ่งต่อหนึ่งกับคุณธนาธร or were there many more people involved?
หรือมีหลายคนเกี่ยวข้องเหรอครับ [Mai] At first, it was a group interview
[ไหม] ตอนแรกเป็นสัมภาษณ์กลุ่มค่ะ and then a one-to-one interview with Khun Thanathorn.
แล้วค่อยสัมภาษณ์เดี่ยวกับคุณธนาคาร [Bick] Maybe they wanted to test
if you could handle the pressure.
[ไหม] พวกเขาอาจอยากทดสอบดูว่าคุณรับแรงกดดันได้ไหม [Mai] Maybe.
[ไหม] อาจจะค่ะ But his test lasted for a couple of months
before we got along well together.
แต่ก็ลากยาวร่วมเดือนอยู่นะคะกว่าจะเข้ากันได้ [Bick] Right, it was a long process
of selecting a new member for the party.
[บิ๊ก] ครับ เป็นกระบวนการคัดเลือกสมาชิกพรรคใหม่ที่ยาวนาน [Mai] I mean, the process ended really quickly,
[ไหม] คือกระบวนการน่ะจบไวค่ะ but we had to have some time to tune in.
แต่ต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหากัน [Bick] So, you got kind of accepted
almost right away, I guess,
[บิ๊ก] ฉะนั้นก็เหมือนคุณได้รับเลือกโดนทันทีสินะ and then there was like the probation period, could I say that?
แล้วก็มีช่วงโปร เรียกแบบนั้นได้ไหมครับ [Mai] Yes, I was telling him that I would join beforehand,
[ไหม] ค่ะ ไหมบอกเขาว่าอยากเข้ามาทำงานก่อน like two weeks in advance without getting paid,
ซักสองสัปดาห์ล่วงหน้าโดยไม่รับเงินเดือน just to get along with the team and get along with them.
เพื่อปรับตัวเข้ากับทีม [Bick] I mean, just to test if you can really fit in
and can really do this job.
[บิ๊ก] เพื่อดูว่าคุณจะเข้ากับทีมหรือทำงานได้จริงไหม [Mai] To see if the chemistry is right.
[ไหม] ดูว่าเคมีเข้ากันได้ไหม [Bick] You were saying before
that you were looking for a new job at the time,
เมื่อกี้คุณบอกว่าตอนนั้นกำลังหางานใหม่อยู่ so what do you want out of your new job
that the old one couldn't provide?
คุณมองหาอะไรในงานใหม่ ที่งานเก่าให้ไม่ได้บ้าง [Mai] Because I worked as a researcher
for almost my entire life,
[ไหม] ด้วยความที่ทำงานเป็นนักวิจัยมาเกือบทั้งชีวิต but then I had to quit the last research job
แต่แล้วไหมก็ต้องลาออกจากตำแหน่งงานวิจัย and take the new one as a consultant in a private firm.
แล้วรับตำแหน่งที่ปรึกษาให้บริษัทเอกชน So, it's not really my type of work,
ซึ่งมันไม่ใช่งานแบบที่ใช่ไหมเลย so I tried to find a public policy-related job at that time.
ตอนนั้นเลยพยายามมองหางานเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ [Bick] Can you help me understand
what you like so much about policies?
[บิ๊ก] ช่วยพูดให้ผมเข้าใจทีได้ไหมครับว่าทำไมถึงชอบนโยบายนัก [Mai] Oh, it's hard to tell.
[ไหม] โอ้ อธิบายยากนะคะ I never thought about this.
ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นเลย But when I was in a private firm,
แต่เวลาที่อยู่ในบริษัทเอกชน it's like thinking about someone's profit
is not my way of thinking.
การต้องคอยคิดถึงกำไรของใครสักคน
มันไม่ใช่วิธีคิดแบบไหม So, I would like to think about
the whole society, the whole country,
ไหมเลยอยากคิดถึงสังคมและประเทศส่วนรวม and to do something
just for the owner's profit, it's…
การทำเพื่อกำไรของเจ้าของธุรกิจเพียงอย่างเดียวนั้น [Bick] It's not your thing.
[บิ๊ก] ไม่ใช่คุณสินะ [Mai] It's not my thing.
[ไหม] ไม่ใช่ไหมค่ะ [Bick] But the nature of working on policies,
[บิ๊ก] แต่ธรรมชาติของการทำงานนโยบาย what was the attraction for you?
ความน่าดึงดูดอยู่ตรงไหนครับ Why do you like it so much,
ทำไมคุณถึงชอบมักนัก and why do you think
it's so impactful to work on?
ทำไมมันถึงเป็นงานที่มีอิทธิพลมาก [Mai] I think it's something that
we long for in the electoral system,
[ไหม] ไหมว่ามันเป็นสิ่งที่เราอยากได้ในระบบการเลือกตั้ง that we want people to kind of vote for the policy.
นั่นคือประชาชนได้โหวตเลือกนโยบายที่ชอบ When I was a researcher, we also proposed alternative policies,
ตอนเป็นนักวิจัย พวกเราก็นำเสนอนโยบายทางเลือก but who are we back then?
แต่เราเป็นใครกันล่ะ Probably there were some politicians
who shopped for our proposed policy,
อาจจะบ้างที่นักการเมืองบางคนมาถูกใจนโยบายที่เราเสนอ but it's better to get close
to the policymaking process
แต่การได้อยู่ใกล้ชิดกับกระบวนการมันดีกว่า by proposing directly to the politicians, right?
โดยการได้นำเสนอนโยบายให้กับนักการเมืองโดยตรง As coming closer and closer to becoming
the policy director of a political party,
ยิ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายให้พรรคการเมือง I think it's kind of the way that
ไหมว่ามันเป็นวิธีที่ we can propose better policies
for the voters to choose.
เราได้นำเสนอนโยบายที่ดีกว่าให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง So, it's something that a democratic society would do.
เป็นอะไรที่สังคมประชาธิปไตยพึงกระทำ [Bick] And it turned out to be playing a huge role
[บิ๊ก] แล้วก็กลายเป็นว่ามันช่วยมากๆ because a lot of people elected
the Move Forward Party because of its policies.
เพราะหลายคนก็เลือกพรรคก้าวไกลเพราะนโยบาย [Mai] Maybe.
[ไหม] อาจจะนะคะ I'm not sure.
ไหมไม่แน่ใจ [Bick] Partly because of the policy too
[บิ๊ก] ส่วนหนึ่งก็คงเพราะนโยบายนะ and the way the policy is explained to the voters,
และวิธีที่คุณอธิบายนโยบายให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจ and the way you guys can make
the policies seem very realistic
และทำให้นโยบายจับต้องได้มากๆ and there's a lot of possibility to become real
และมีโอกาสเป็นไปได้จริงสูงมากๆ and work on the side of the people.
แล้วก็ทำงานเคียงข้างประชาชน [Mai] Thank you.
[ไหม] ขอบคุณค่ะ [Bick] How do you make sure that
your policies are better than everybody else's
[บิ๊ก] แล้วคุณทำยังไงให้นโยบายคุณดีกว่าของคนอื่น or that the policies are good enough
หรือทำให้มันดีพอ to become the real policies
that can change people's lives?
ที่จะกลายเป็นนโยบายที่เปลี่ยนชีวิตคนจริงๆ [Mai] I couldn't say that our policy is better,
[ไหม] ไหมคงบอกไม่ได้ว่านโยบายเราดีกว่า but I could say that
maybe people like it more or prefer our policy.
แต่พอพูดได้ว่าไม่แน่ประชาชนอาจชอบนโยบายเรามากกว่า The way that we make a good policy is that
วิธีการสร้างนโยบายของเราก็คือ we have to make it from the bottom up,
สร้างจากล่างขึ้นบน trying to understand,
พยายามเข้าใจ being in the shoes of people
มองจากมุมของประชาชน and trying to figure out how to solve their problems.
และพยายามหาวิธีแก้ปัญหาของพวกเขา But we've got to find a solution that solves it for good,
และต้องเป็นวิธีที่จะแก้ปัญหาได้เด็ดขาด not just for temporary
ไม่ใช่แค่ชั่วคราว because we know this for some time that,
เพราะเราเห็นมาสักพักแล้วว่า of course, if we try to
solve their problems too easily,
ถ้าเราแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างมักง่าย it will come back again and again.
มันจะย้อนกลับมาเรื้อรังไม่รู้จบ So, at first, we have to make sure that
we will change something structurally
ฉะนั้นก่อนอื่นเราต้องมั่นใจว่าเราปรับไปที่โครงสร้าง to make the change for good, not for…
เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงถาวร ไม่ใช่แค่… [Bick] Making a real change that sticks also.
[บิ๊ก] สร้างการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปนานๆ นั่นเอง [Mai] Of course, and the way to make it stick is that
[ไหม] แน่นอนค่ะ วิธีทำให้มันอยู่ยาวได้ก็คือ we've got to make sure that
we know how to implement it.
ต้องมั่นใจว่าเรารู้วิธีนำนโยบายไปปฏิบัติใช้ The execution is the key,
การลงมือดำเนินนโยบายคือกุญแจ and lots of policies in the political market
มีนโยบายมากมายในโลกการเมือง are not thought through
about the implementation process.
ที่แง่การปฏิบัติใช้ไม่ได้ถูกคิดไว้อย่างรอบคอบ [Bick] You mean the policy sounds good,
[บิ๊ก] หมายถึงนโยบายน่ะฟังดูดี but in reality, how can we actually execute it?
แต่ในความจริงแล้ว จะทำให้เกิดขึ้นจริงยังไง [Mai] Yes, and a lot of good policies
couldn't be accomplished
[ไหม] ค่ะ แล้วนโยบายดีๆ หลายอันก็ไม่ลุล่วง just because they didn't think it through
about the execution.
เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วนเรื่องการลงมือทำ [Bick] Right, and you oversee the whole process of
policymaking for the Move Forward Party.
[บิ๊ก] ครับ คุณไหมดูแลกระบวนการทำนโยบายทั้งหมดของก้าวไกล How did you enjoy this work as a policy director?
ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย คุณสนุกกับมันตรงไหนครับ [Mai] Oh, I wouldn't say it's an enjoyable moment.
[ไหม] โอ้ ไหมคงไม่บอกว่ามันสนุกนะคะ It's really hard
มันยากจริงๆ because it's like other political things
that we have to compromise a lot.
เพราะว่าคล้ายกับงานการเมืองส่วนใหญ่
เราต้องประนีประนอมเยอะมาก I'm from the academia world,
ไหมมาจากโลกนักวิชาการ so I want to maintain all the academic integrity.
ฉะนั้นไหมอยากรักษาความซื่อตรงทางวิชาการทั้งหมดไว้ but sometimes we have to compromise about the popularity,
แต่บางครั้งเราต้องประนีประนอมเรื่องความนิยม the people,
ประชาชน the interest groups, and stuff like that.
และกลุ่มผลประโยชน์ อะไรแบบนั้น So, in reality, it's not so easy and enjoyable.
ฉะนั้นในความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายและสนุกนัก [Bick] But to me, you don't look like someone
who would enjoy something easy anyway.
[บิ๊ก] แต่สำหรับผม คุณไม่เหมือนคนที่จะ
สนุกกับอะไรง่ายๆ อยู่แล้วนะ You look like someone
who really enjoys challenges, right?
คุณไหมเหมือนคนที่สนุกกับความท้าทาย ใช่ไหม Am I right to assume that?
ผมทึกทักไปแบบนั้นถูกหรือเปล่า [Mai] I would say so, yes.
[ไหม] ว่าแบบนั้นก็ได้ค่ะ ใช่ [Bick] If it was too easy, maybe it wouldn't interest you.
[บิ๊ก] ถ้าง่ายเกินไป คุณก็คงไม่สนใจ [Mai] I mean, but it shouldn't be that hard.
[ไหม] แต่ก็ไม่เห็นจะต้องยากขนาดนั้น [Bick] There's a limit.
[บิ๊ก] มันก็มีขีดจำกัด [Mai] There should be a limit.
[ไหม] มันควรมีขีดจำกัดค่ะ [Bick] Policymaking, enjoying it,
[บิ๊ก] กำหนดนโยบาย สนุกกับมัน challenged by it,
รู้สึกท้าทายไปกับมัน but one day things changed again
แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนอีกครั้ง because you got offered the opportunity
to actually become a real politician,
เพราะคุณได้รับโอกาสให้เป็นนักการเมืองตัวจริง not just a policymaker behind the scenes anymore.
ไม่ใช่นักกำหนดนโยบายหลังม่านอีกแล้ว So, did you think hard about the offer?
คุณคิดหนักกับข้อเสนอนั้นไหมครับ [Mai] I gave it some time, I think,
[ไหม] ไหมก็ใช้เวลาสักพัก and it's kind of coming in a way.
จริงๆ ก็รู้อยู่แล้วประมาณหนึ่ง I knew beforehand that I might make it to the candidate list,
ไหมรู้ล่วงหน้าว่าจะได้อยู่ในรายชื่อผู้ท้าชิง but then…
แต่แล้ว… [Bick] So you could tell that there was a sign.
[บิ๊ก] คุณมองออกว่ามีสัญญาณบางอย่าง [Mai] But then Khun Thanathorn made a call,
[ไหม] แล้วคุณธนาธรก็โทรมา and I think I took like 30 seconds to say yes to him.
ไหมว่าน่าจะใช้เวลาซัก 30 วิก่อนตอบตกลงกับเขา Not because that…
ไม่ใช่เพราะว่า… Of course, I wanted to be a politician,
คือแน่นอน ไหมอยากเป็นนักการเมือง but, of course, I wouldn't make it
because I would be in number 15th.
แต่คงไม่ได้หรอกเพราะไหมอยู่ตั้งลำดับที่ 15 So, our party was too new to win election,
พรรคเราใหม่เกินกว่าจะชนะเลือกตั้ง so we couldn't make it to 15. I was number 15th.
คงได้สส.ไม่เกิน 15 ที่ และไหมอยู่ลำดับที่ 15 [Bick] And for those days, it seemed
almost impossible to reach number 15th.
[บิ๊ก] ตอนนั้นคงแทบเป็นไม่ได้ที่จะได้ถึงลำดับที่ 15 [Mai] It was December 2018,
[ไหม] เป็นช่วงธันวาคมปี 2561 so it's very, very early at the moment.
ตอนนั้นยังเป็นช่วงแรกเริ่มมากๆ Nobody knows Thanathorn Juangroongruangkit.
ไม่มีใครรู้จัก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ You know what he said?
คุณรู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไร He said, "Oh, we kind of want some
female candidates in the top 20."
เขาบอก “เราต้องการผู้สมัครหญิงในรายชื่อ 20 อันดับแรก” So I've got the gender quota.
เพราะงั้นไหมเลยได้โควตาเพศค่ะ [Bick] You were like the token.
[บิ๊ก] คุณไหมเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนผู้หญิง But we were happy that it turned out great anyway,
แต่เราก็ดีใจที่มันออกมายอดเยี่ยมในที่สุด and you became an MP.
แล้วคุณก็ได้เป็นสส. [Mai] Yes, finally. Surprise, surprise.
[ไหม] ใช่ค่ะ ในที่สุด เซอร์ไพส์มาก [Bick] How long did it take you to adjust?
[บิ๊ก] คุณใช้เวลาปรับตัวนานแค่ไหนครับ Or was it a long period of adjustment anyway
for you to gradually enter politics?
หรือว่ามันก็ใช้เวลานานอยู่แล้ว
สำหรับการค่อยๆ ปรับตัวเข้าสู่โลกการเมือง [Mai] Oh, I'm still adjusting.
[ไหม] โอ้ ตอนนี้ก็ยังปรับตัวอยู่ค่ะ [Mai] I'm still not used to it.
[Bick] You're still adjusting!?
[ไหม] ยังไม่ชินเลย
[บิ๊ก] ยังปรับตัวอยู่เหรอ! [Mai] I mean, back in the day,
[ไหม] คือย้อนไปสมัยก่อน I remember the very first time
that I had to debate in the parliament,
ยังจำการอภิปรายในสภาครั้งแรกได้อยู่เลย I was like horrified.
น่าสยดสยองสุดๆ I couldn't even listen to myself.
กลับไปฟังอีกครั้งแทบไม่ไหวเลยค่ะ It was not understandable what I was saying.
ไหมพูดแทบไม่รู้เรื่องเลย [Bick] But were you good at debating before that?
[บิ๊ก] แต่ก่อนหน้านี้คุณอภิปรายเก่งอยู่แล้วไหมครับ [Mai] I thought I was,
[ไหม] เคยคิดว่าเก่งค่ะ but, I mean, I was a researcher.
แต่ด้วยความที่เป็นนักวิจัย I talked at press conferences to present my papers, articles,
ไหมก็ได้แถลงกับสื่อเพื่อนำเสนองานวิจัยหรือบทความ and I can speak to the public for sure
with facts, figures, and data.
ไหมไม่มีปัญหาเลยกับการพูดในที่สาธารณะ
ด้วยข้อเท็จจริง ตัวเลข และข้อมูล But then in the parliament,
แต่ในสภา I couldn't speak the same way that I did
ไหมจะพูดเหมือนเดิมไม่ได้ because all the comments would say,
เพราะจะมีเสียงวิจารณ์ว่า "What did she say?"
“นางพูดอะไร” "It's too hard to understand."
“เข้าใจยากเกิน” "It's too difficult."
“ยากเกินไป” So, I got a lot of this kind of feedback.
ไหมก็จะได้ยินคนพูดแบบนี้อยู่บ่อยๆ So I had to adjust a lot,
เลยต้องปรับตัวเยอะค่ะ trying to play down the facts and figures
พยายามลดสัดส่วนของตัวเลขและข้อมูล and add more of the rhetorical things that are not my things,
แล้วเพิ่มลวดลายวาทศิลป์เข้าไป ซึ่งไม่ใช่ของถนัดเลย not at all.
ไม่ใช่เลย [Bick] So you kind of taught yourself along the way.
[บิ๊ก] ฉะนั้นก็เหมือนคุณสอนตัวเองไปเรื่อยๆ Did anybody teach you
how to be better at debating in the parliament?
มีใครสอนให้คุณอภิปรายในสภาไหมครับ [Mai] No.
[ไหม] ไม่มีค่ะ [Bick] Do you have any idols or role models?
[บิ๊ก] คุณมีไอดอลไหม [Mai] No,
[ไหม] ไม่มีค่ะ I mean, of course, when we did the script,
คือ แน่นอนว่าเวลาเขียนสคริปต์ Khun Chaithawat or P'Wiroj would
add some lines for me
คุณชัยธวัชหรือพี่วิโรจน์จะช่วยเติมบางท่อนให้ไหม that make it more juicy,
ให้มันแซ่บขึ้น not like a…
ไม่ใช่แค่… [Bick] Make it sexy and captivating.
[บิ๊ก] ให้มันเซ็กซี่และน่าติดตาม [Mai] Not like a paper presentation.
[ไหม] ไม่ใช่การนำเสนอบทความวิจัย But no, I don't.
แต่ไม่ค่ะ ไม่มี I think I should have my own style of debating.
ไหมควรอภิปรายในแบบของตัวเอง [Bick] How did you develop your own style?
[บิ๊ก] แล้วคุณพัฒนาเอกลักษณ์แบบคุณอย่างไร Was it hard and time-consuming?
ยากและใช้เวลาเยอะไหมครับ How time-consuming is that?
ใช้เวลาเยอะแค่ไหนครับ [Mai] It's learning by doing.
[ไหม] มันคือการเรียนรู้ผ่านการทำจริง I don't really mean to try to practice
ไม่ได้ตั้งใจต้องฝึกซ้อมขนาดนั้นค่ะ because I don't even have time
to rehearse my own debate.
เพราะแทบจะไม่มีเวลาซ้อมอภิปรายของตัวเองอยู่แล้ว Because every single big event,
for example, like a budget bill debate
เพราะในทุกๆ งานใหญ่ เช่น อภิปรายงบประมาณ or a no-confidence debate,
อภิปรายไม่ไว้วางใจ I have to be the central team
to prepare the data and the scripts.
ไหมต้องเป็นทีมส่วนกลางคอยเตรียมข้อมูลและสคริปต์ So, I never had time to rehearse the script on my own.
จึงไม่เคยมีเวลาได้ซ้อมสคริปต์ตัวเองเลย [Bick] Because I have to
work with everybody else, like a lot of people.
[บิ๊ก] แต่คุณต้องทำงานประสานกับคนอื่นๆ เยอะแยะ [Mai] For everybody else.
[ไหม] เพื่อคนอื่นๆ [Bick] For everybody else.
[บิ๊ก] เพื่อคนอื่นๆ เนาะ You're helping them out also.
คุณก็ช่วยพวกเขาด้วย So, you have little time for rehearsing
or practicing your own stuff.
เลยมีเวลาซ้อมส่วนของตัวเองน้อย [Mai] And then once I have to
be up there and debate,
[ไหม] แต่เมื่อไรที่ไหมได้ขึ้นไปอภิปรายแล้ว I just try to read the comments and feedback
ไหมจะพยายามอ่านคอมเมนต์และเสียงตอบรับ and get improved every time.
และพัฒนาปรับปรุงทุกครั้ง [Bick] And the good thing is that you get to,
[บิ๊ก] ข้อดีก็คือคุณได้ you said learning by doing, and you get to do a lot.
โอกาสทำเยอะมาก อย่างที่คุณบอกว่าเรียนรู้ผ่านการทำจริง So, you have plenty of
opportunities to practice and get better.
คุณมีโอกาสในการซ้อมและพัฒนาเยอะ [Mai] I try to avoid every single big event if possible
[ไหม] ไหมพยายามหลีกเลี่ยงงานใหญ่ๆ ทุกงานถ้าเป็นไปได้ because it's too tiring.
มันน่าเหน็ดเหนื่อยมากๆ ค่ะ Just working for the central team
แค่ทำงานกับทีมส่วนกลาง and doing my own script and slides is too much.
ทำสคริปต์และสไลด์ของตัวเองก็เกินพอแล้ว [Bick] But of course, the life of Sirikanya as an MP
doesn't exist only in the parliament.
[บิ๊ก] แต่แน่นอนว่าชีวิตของศิริกัญญาในฐานะสส.
ไม่ได้มีอยู่แค่ในสภาเท่านั้น There's life outside of the parliament,
คุณมีชีวิตนอกสภาด้วย particularly, I mean specifically, on social media too.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย Well, I just thought of something
that my mom told me as a kid,
ผมเพิ่งนึกถึงสิ่งนึงที่แม่บอกผมตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก "Okay, you're great. You can be anything.
“โอเค ลูกเก่ง ลูกจะเป็นอะไรก็ได้ I wouldn't forbid you to become anything at all.
แม่จะไม่ห้ามไม่ให้หนูเป็นอะไรเลย You can be anything that you want.
อยากทำอาชีพอะไรก็ทำ But don't be someone who goes and interviews
a politician on TV and gets scolded,
แต่อย่าไปเป็นคนสัมภาษณ์นักการเมืองแล้วโดนด่าออกทีวี because that would be embarrassing
มันน่าอาย and I wouldn't tolerate that."
และแม่จะไม่ทน” That's what my mom told me,
"Don't get scolded on screen."
นั่นคือสิ่งที่แม่บอกผม “อย่าไปโดนด่าออกทีวี” But that's just by one politician.
แต่นั่นน่ะแค่โดนนักการเมืองคนเดียวนะ But nowadays, because back then
social media didn't exist, right?
เพราะตอนนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดียนี่นา So my mom couldn't imagine
the magnitude of being scolded
แม่คงนึกระดับความรุนแรงของการโดนทัวร์ลง by thousands or millions of people.
โดยคนเป็นพันเป็นล้านไม่ออก But that's what you're facing nowadays.
แต่นั่นเป็นสิ่งที่คุณไหมกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ [Mai] Right.
[ไหม] ใช่ค่ะ [Bick] Are you used to that yet?
[บิ๊ก] คุณชินแล้วหรือยังครับ I mean to be loved so much by a lot of people,
กับการเป็นที่รักของคนจำนวนมาก and to be hated so much
by a lot of people at the same time.
และเป็นที่ชังของคนจำนวนมากในขณะเดียวกัน [Mai] I kind of got used to it at the end.
[ไหม] ในที่สุด ก็ค่อนข้างชินแล้วค่ะ I mean, if I could pass during that time
when we were forming the government,
ถ้าเราผ่านช่วงนั้นที่เราจัดตั้งรัฐบาลมาได้ I can get through anything in the world right now.
จากนี้จะเจออะไรในโลก ไหมก็ผ่านไปได้ทั้งนั้นค่ะ [Bick] You've been through the worst.
[บิ๊ก] คุณผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว [Mai] Yes.
[ไหม] ใช่ค่ะ [Bick] But are you surprised by
how polarized people can be?
[บิ๊ก] แต่คุณประหลาดใจไหมครับ
ทำไมคนเราแตกแยกแบ่งขั้วกันรุนแรงขนาดนี้ I mean, there are a lot of people who are ready
to agree with everything that you say,
มีหลายคนที่พร้อมจะเห็นพ้องกับทุกสิ่งที่คุณพูด and at the same time, a lot of people
who would disagree with everything you say too.
และในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคน
ที่พร้อมจะแย้งทุกสิ่งที่คุณพูดเช่นกัน I mean, it's like, are you watching the same debate
ผมรู้สึเหมือนว่า นี่เราดูอภิปรายเดียวกันอยู่หรือเปล่าเนี่ย or are you watching the same show?
ดูรายการเดียวกันอยู่หรือเปล่า Because from one interview, people could say,
เพราะจากสัมภาษณ์หนึ่งครั้ง บางคนอาจบอก "Oh, Sirikunya is so smart and she's perfect,"
“โอ้ ศิริกัญญาช่างฉลาดและสมบูรณ์แบบเหลือเกิน” and the other person might say,
ส่วนอีกคนอาจจะบอกว่า [Bick] "Ah, she didn't have a clue."
[Mai] "She's so stupid."
[บิ๊ก] “โอ้ย นางไม่รู้อะไรเลย”
[ไหม] “นางบื่อจริงๆ” [Bick] How do you think people should follow politics?
[บิ๊ก] คุณไหมคิดว่าเราควรติดตามการเมืองอย่างไรครับ [Mai] I mean, of course, they can dissent,
[ไหม] แน่นอน ว่าพวกเขาเห็นแย้งได้นะคะ and they can express their opinions and stuff like that.
และสามารถออกความเห็นของตนได้ I don't think it's kind of polarized.
และไหมไม่คิดว่ามันแตกแยกเลย It oversimplifies things.
พูดแบบนั้นทำให้มันง่ายเกินไป I mean, I think it's based on their prior beliefs,
ไหมมองว่ามันเกี่ยวข้องกับความเชื่อดั้งเดิมของพวกเขา their prejudices,
อคติที่มี their experiences, and stuff like that.
และประสบการณ์ที่เจอ อะไรแบบนั้น And I don't mind if I get very bad comments,
ไหมไม่ได้อะไรกับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบ but I think I'll prove myself by…
แต่คิดว่าจะพิสูจน์ตัวเองผ่าน… [Bick] Through your work
[บิ๊ก] ผ่านงานของคุณ [Mai] Yeah, through my work, through my speech, to my…
[ไหม] ใช่ค่ะ ผ่านงาน ผ่านคำพูด และ… I think I understand them.
ไหมว่าไหมเข้าใจพวกเขาค่ะ That they are out of the clue,
พวกเขาอาจคิดว่า จู่ๆ who is this girl?
นางหนูนี่เป็นใคร She's not like one of us.
ไม่ใช่พวกเรานี่นา I don't belong to their elite club and stuff like that,
ไม่คู่ควรกับแวดวงชั้นสูงของพวกเขา อะไรแบนนั้น but then just gradually changed their mind.
แต่ไหมจะค่อยๆ เปลี่ยนใจพวกเขาค่ะ [Bick] So you think the idea of 'ความแบกหรือความด้อม'
[บิ๊ก] ฉะนั้นคุณคิดว่า 'ความแบกหรือความด้อม' is normal in politics
เป็นเรื่องปกติในโลกการเมือง and it's not going to be a problem?
และมันจะไม่เป็นปัญหา [Mai] It's kind of normal,
[ไหม] ใช่ค่ะมันปกตินะ maybe because I'm used to it right now,
อาจจะเพราะตอนนี้ ไหมชินกับมันไปแล้ว and I don't know whether in other countries' politics
และไม่รู้ว่าการเมืองประเทศอื่นๆ there's this kind of 'ด้อม' or not.
มีความ ‘ด้อม’ แบบนี้หรือเปล่า But if you compare it to
the fandom phenomenon in Korean pop stars,
แต่ถ้าเปรียบกับปรากฏการณ์แฟนดอมของไอดอลเกาหลี it's almost the same thing, but…
มันก็เกือบจะเป็นสิ่งเดียวกันเลยนะ แต่… [Bick] It's like everything you do, I love.
[บิ๊ก] เหมือนว่าทุกสิ่งที่คุณทำ ฉันชอบ Everything you say, I love, right?
ทุกสิ่งที่คุณพูด ฉันถูกใจ ใช่ไหมครับ [Mai] Not quite.
[ไหม] ไม่เชิงนะคะ I think there are some people who can talk to my face.
ก็มีบางคนที่พูดกับไหมต่อหน้าเลย Even if they are fans, they still talk straight to me that,
แม้ว่าเขาจะเป็นแฟนคลับ เขาก็จะพูดตรงๆ กับไหมว่า "Oh, you should probably reduce saying
'ah' or 'uh'," something like this.
“คุณควรลดการพูด ‘เอิ่ม’ หรือ ‘อ่า’ ลงบ้างนะ” Or they would say,
หรือพวกเขาอาจบอกว่า "I don't like it when you oppose the 'Landbridge Project.'"
“ฉันไม่ชอบเวลาคุณแย้งโครงการแลนด์บริดจ์” You know, in my inbox, they would go straight to me.
ในกล่องข้อความไหมนี่ เขาจะพูดตรงๆ กันเลยนะคะ We are not like in the upper level than them,
เราไม่ใช่คนที่อยู่เหนือกว่าพวกเขา we are lower.
พวกเราอยู่ต่ำกว่า So they can criticize while supporting.
ฉะนั้นพวกเขาสามารถวิจารณ์พร้อมสนับสนุนเราไปด้วยได้ It's not that…
ไม่ใช่ว่า… [Bick] So you have no problem with people coming at you
[บิ๊ก] ฉะนั้นคุณไม่มีปัญหากับการมีคนเข้ามาโจมตีคุณ and debating about something that
they maybe don't agree with you?
หรือโต้เถียงเรื่องที่เขาอาจเห็นต่างจากคุณ [Mai] Yes, of course.
[ไหม] ใช่ค่ะ แน่นอน It's normal,
มันเป็นเรื่องปกติ and now we have to do this all the time
แล้วเราก็ต้องทำโต้เถียงกันตลอดเวลา to the public or in the party,
not always agree in everything.
ในที่สาธารณะหรือในพรรค เราไม่ได้เห็นพ้องตรงกันทุกเรื่อง [Bick] But a lot of people don't just
come at you with opinions,
[บิ๊ก] แต่หลายคนก็ไม่ได้เข้าหาคุณด้วยความเห็น but also with attitude,
แต่มีท่าทีก้าวร้าวด้วย with temper,
ด้วยอารมณ์ or such extreme aggression.
หรือความก้าวร้าวสุดขีด So, how do you handle that?
คุณรับมืออย่างไร [Mai] I just ignore them.
[ไหม] ไหมก็แค่มองข้ามไปค่ะ Come on.
ไม่เอาน่า [Bick] Is it that easy to ignore, though? I mean…
[บิ๊ก] มันเมินเฉยกันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ [Mai] Yes, I said I passed that period.
[ไหม] ใช่ค่ะ ไหมบอกแล้วว่าผ่านช่วงนั้นมาแล้ว I've been through the worst,
ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว so it's now pretty much easy to ignore them.
ตอนนี้การมองข้ามและเมินเฉยไปมันง่ายมาก But I try not to ignore all of them
แต่ไหมพยายามไม่เพิกเฉยคำวิจารณ์ทั้งหมด because maybe there are some valuable comments
เพราะอาจมีความเห็นดีๆ ที่มีคุณค่า camouflaged in this aggressive acting and stuff like that.
อำพรางอยู่ในท่าทีแสนก้าวร้าวก็ได้ [Bick] Wow, that's great.
[บิ๊ก] ว้าว ดีจัง So, I kind of have to assume that
your mental health is very strong,
ผมอดไม่ได้ที่จะคิดว่าสภาพจิตใจคุณต้องแข็งแกร่งมากๆ or at least stronger than most people,
in order to survive in politics.
หรืออย่างน้อยก็ต้องแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป
เพื่อให้อยู่รอดในโลกการเมือง [Mai] Yeah, sure,
[ไหม] ใช่ค่ะ แน่นอน because there's also some organized...
เพราะก็จะมีกลุ่มการจัดตั้ง… I wouldn't say IO,
ไหมจะไม่เรียกว่าไอโอ but organized commentators that
attacked every single post of mine
แต่เป็นนักวิจารณ์ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อโจมตีทุกโพสต์ของไหม with very, very rude words,
ด้วยคำพูดหยาบคาย and vulgar and stuff like that.
หยาบโลนอะไรแบบนั้น But it couldn't do me anything.
แต่ก็ทำอะไรไหมไม่ได้ค่ะ [Bick] Since we know what they are,
[บิ๊ก] เพราะเรารู้ว่าพวกเขาเป็นใคร what they're doing,
กำลังตั้งใจทำอะไร and where they're coming from,
และมีเจตนาอย่างไร it's going to be even much easier to ignore, I guess.
เดาว่าการเพิกเฉยกับพวกเขาก็ยิ่งง่ายขึ้น Yes, but you've got to be very,
very careful not to label everyone like,
ใช่ค่ะ แต่ต้องระวังไม่ตีตราทุกคนว่า "Oh, this is IO, so..."
“โอ้ นี่เป็นไอโอ เพราะงั้น…” Not like that.
ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ I have to be very, very careful with this.
ไหมต้องระแวดระวังเรื่องนี้มากๆ [Bick] Do you think you're too nice to be in politics?
[บิ๊ก] คุณไหมคิดว่าตัวเองนิสัยดีเกินกว่าจะเล่นการเมืองหรือเปล่าครับ [Mai] I'm not nice.
[ไหม] ไหมไม่ได้นิสัยดีค่ะ [Bick] You're not nice?
[บิ๊ก] ไม่เหรอ [Mai] I could be fierce sometimes, as you said.
[ไหม] บางครั้งไหมก็ฟาด อย่างที่พี่บิ๊กบอก [Bick] Oh, yeah, of course. We have all seen that,
[บิ๊ก] อ๊ะ แน่นอน เราเคยเห็นกับตามาแล้ว and we are very impressed by that.
และเราต่างรู้สึกประทับใจมากๆ I think I have heard a lot of people say,
or you accepted yourself,
ผมได้ยินหลายคนพูด และคุณก็ยอมรับเอง that "oh, people are scared of me,"
ว่า “คนอื่นกลัวฉัน” especially like your party members
โดยเฉพาะสมาชิกพรรคคุณ when it comes to, "Doing your job right!" Right?
เมื่อถึงเวลาต้อง “ทำงานให้ดีนะ!” ใช่ไหมครับ [Mai] Right.
[ไหม] ค่ะ [Bick] Okay, tell me about fierce Sirikunya at work.
[บิ๊ก] โอเคครับ เล่าเรื่องศิริกัญญาร่างดุที่ทำงานให้ฟังหน่อย [Mai] Of course, because I'm a borderline perfectionist.
[ไหม] ได้สิคะ เพราะไหมเป็นคนคลั่งความสมบูรณ์แบบชนิดก้ำกึ่ง [Bick] Just borderline.
[บิ๊ก] แค่ก้ำกึ่ง [Mai] So everything's got to be perfect,
[ไหม] เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเป๊ะ and I'm a very straight person.
บวกกับไหมเป็นคนตรงไปตรงมามากๆ Some of my team members would say, "You're so mean!"
เพื่อนร่วมทีมบางคนก็จะบ่นว่า “คุณไหมใจร้ายจัง!” [Bick] But you didn't mean to be mean, I assume.
[บิ๊ก] แต่คุณไม่ได้ตั้งใจจะใจร้ายหรอก [Mai] Of course, but I'm trying to make the work…
[ไหม] ใช่แล้ว แต่ไหมพยายามทำให้งานมัน… [Bick] as clear as possible.
[บิ๊ก] ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ [Mai] Yes, of course.
[ไหม] ใช่ค่ะ แน่นอน And sometimes I have to say very straight to them that
บางครั้งก็เลยต้องพูดตรงๆ กับพวกเขาว่า they've got to fix their work,
ต้องปรับแก้งานนะ and it could hurt them sometimes.
ก็ทำให้เขาเสียใจบ้าง So, I want to improve myself on this too,
ไหมก็อยากปรับปรุงตัวเองในเรื่องนี้เหมือนกัน try to sugarcoat everything.
พยายามถนอมน้ำใจในทุกเรื่อง [Bick] Sugarcoating things sometimes, yeah.
[บิ๊ก] พูดหวานถนอมน้ำใจบ้าง ใช่เลย But I think, obviously, it works.
แต่ผมว่า มันได้เห็นผลชัดเจนนะ I mean, it works out for the best,
หมายถึง มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด you being strict and stern,
กับการที่คุณเข้มงวดและจริงจัง and like being a perfectionist about things
that should be perfectionistic about, I guess.
และยึดมั่นในความสมบูรณ์แบบกับสิ่งที่ควรต้องสมบูรณ์แบบ So, for a lot of people, they might say,
หลายคนอาจพูดว่า "ศิริกัญญาไม่เคยตายไมค์" "ไม่เคยมีใครเอาเธอลงได้" So basically, they're saying that you're unbeatable,
ว่าง่ายๆ คือพวกบอกว่าคุณไร้พ่าย you're invincible.
ไร้เทียมทาน First of all, do you agree with this statement,
ก่อนอื่น คุณเห็นด้วยกับข้อความนี้ไหม and second of all, if yes, what's your secret?
และหากใช่ เคล็ดลับของคุณคืออะไร [Mai] First, I don't agree with this
[ไหม] ก่อนอื่น ไหมไม่เห็นด้วยค่ะ because I think it's just too small of a sample size.
เพราะไหมคิดว่ามีข้อมูลตัวอย่างน้อยเกินไป I mean, it's just a couple of times
that I've been to the debate.
คือ ไหมไปดีเบตแค่ไม่กี่ครั้งเอง You need more information, more data.
คุณต้องมีข้อมูลเยอะกว่านี้ You have to collect more data over time to really.
ต้องเก็บข้อมูล ผ่านระยะเวลาช่วงหนึ่ง เพื่อที่จะบอกว่าคุณ… Unbeatable.
เป็นคนไร้พ่ายจริงๆ [Bick] So, you're beatable sometimes?
[บิ๊ก] ถ้างั้นบางครั้ง คุณก็มีแพ้บ้างใช่ไหม [Mai] I don't know, maybe in the future, but not yet.
[ไหม] ไม่รู้สิคะ อาจจะในอนาคต แต่ตอนนี้ยังค่ะ [Bick] Oh, okay, all right.
[บิ๊ก] โอ้ โอเคครับ So, not totally invincible in that sense.
ในมุมนั้นก็ไม่ได้ไร้เทียมทานในทุกด้าน [Mai] But still, logically strong.
[ไหม] แต่ก็ยังต้องมีเหตุและผลที่แข็งแรง I mean, this kind of stuff that could make me
seem to be winning the debates a lot of time,
อะไรพวกนี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ไหมชนะการถกเถียงหลายๆ ครั้ง when I have to confront with a very tough guy,
เวลาต้องเผชิญหน้ากับคนหินๆ very high-level seniors,
อย่างผู้อาวุโสระดับสูงๆ ex-ministers, and stuff.
อดีตรัฐมนตรี อะไรพวกนั้น [Bick] That appears to be your weapon
like, logical thinking, data.
[บิ๊ก] เหมือนนั่นจะเป็นอาวุธของคุณนะ
การคิดที่ตั้งอยู่บนตรรกะและข้อมูล So just beat them up
with data and logical facts.
ฉะนั้นก็ เอาชนะพวกเขาด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริง [Mai] Yes, I think the key is
the logical consistency that I have to be,
[ไหม] ใช่ค่ะ ไหมว่ากุญแจคือความสอดคล้องทางตรรกะ and all the data and the facts that…
และข้อมูล ข้อเท็จจริงทั้งหลายที่ people would say,
หลายคนอาจสงสัย "How could I remember all those facts and figures?"
“ไหมจำข้อมูลและตัวเลขทั้งหมดได้ยังไง” But I don't know,
แต่ไหมก็ไม่มีคำตอบ I don't know how I did that,
ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร but it's already imprinted in my head,
แต่มันฝังในหัวไปแล้วค่ะ and I can say it out.
แล้วก็สามารถพูดออกมาได้ Maybe because I read a lot of information every day,
อาจเป็นเพราะไหมได้อ่านข้อมูลมหาศาลทุกวัน not just the news,
ไม่ใช่แค่ข่าวสาร and I read all the stuff including…
และไหมได้อ่านทุกอย่าง รวมถึง… [Bick] I think that's the scary part for me,
[บิ๊ก] ไหมคิดว่านั่นเป็นอะไรที่น่ากลัวสำหรับผม like she remembers everything,
แบบว่า คุณจำได้ทุกอย่างเลยแฮะ and it's almost like a superpower,
ดูเหมือนกับเป็นพลังวิเศษเลย like “God, how did she do it?”
แบบว่า “แม่เจ้า ทำได้ยังไงเนี่ย” But yeah, that works out for the best also, right?
แต่ก็นะ สุดท้ายมันก็ออกมาดีในที่สุดเนาะ [Mai] Yes, I think so.
[ไหม] ใช่ ไหมเห็นด้วยค่ะ I think this is a better way to win a debate, right?
ไหมมองว่ามันเป็นวิธีการชนะดีเบตที่ดีกว่า By the facts and figures and reasons,
ด้วยข้อมูล ตัวเลข และเหตุผล not by rhetoric and…
ไม่ใช่วาทศิลป์แล้วก็… [Bick] How about tactics or gimmicks
that a lot of people seem to also use?
[บิ๊ก] แล้วกลเม็ดและลูกเล่นที่หลายๆ คนชอบใช้ล่ะครับ Like, you need some tactics
แบบว่า เวลาอภิปรายต้องมีกลเม็ดนะ or use some gimmicks in your debate in order to win.
หรือต้องมีลูกเล่นที่จะใช้เอาชนะ Maybe you don't have the best facts or the data at hand,
บางครั้งคุณอาจไม่มีข้อเท็จจริงหรือข้อมูลที่ดีในมือ but you could talk your way out of things.
แต่คุณอาจสามารถใช้วาทะเพื่อหลบเลี่ยงได้ [Mai] And that thing that I don't have,
[ไหม] และนั่นคือสิ่งที่ไหมไม่มีค่ะ if I don't know something, it's the end of the story.
ถ้าไหมไม่รู้อะไร เรื่องก็จบทันที I couldn't do that.
ไหมทำไม่ได้ I mean, that's my weakness also,
มันเป็นจุดอ่อนของไหมเช่นกัน that I couldn't do,
trying to get away with something else.
การใช้สิ่งอื่นเพื่อบ่ายเบี่ยงเป็นสิ่งที่ไหมทำไม่ได้ I couldn't do that.
ทำไม่เป็นค่ะ If I ran out of supporting facts and figures,
ถ้าไม่เหลือข้อเท้จจริงหรือตัวเลขสนับสนุน I would surrender.
ไหมก็จะยอมแพ้ I would surrender, waving the white flags.
ขอยอมจำนน ยกธงขาว [Bick] Oh, okay, but it's kind of
strange a little bit to me that
โอเค ผมค่อนข้างแปลกใจที่ you kind of accept right out that,
คุณยอมรับตรงๆ ว่า “okay, this is my weakness,”
โอเค “นี่คือจุดอ่อนของฉัน” that “I am not maybe cunning enough in debates”
ว่า “ฉันอาจไม่มีเล่ห์เหลี่ยมพอในการอภิปราย” or “I might have to improve this about myself.”
หรือ “ฉันต้องพัฒนาตัวเองในเรื่องนี้” [Mai] Yes, so maybe
it's just learning by doing as well, this thing.
[ไหม] ใช่ค่ะ เรื่องนี้อาจต้องเรียนรู้ผ่านการทำจริงเหมือนกัน I mean, during the election,
ในช่วงเลือกตั้ง even if we call it a debate,
แม้เราจะเรียกว่าเป็นการดีเบต it's not really a debate,
แต่จริงๆ มันไม่ใช่ and never will be a debate during elections,
และจะไม่มีทางมีการดีเบตช่วงเลือกตั้งค่ะ It's just that we talk our own scripts,
มีแต่พวกเราขึ้นไปพูดสคริปต์ของตัวเอง and we don't debate with others that much.
ไม่ได้ถกเถียงโต้ตอบกับใครมากมาย But after the election, the real debates come.
แต่หลังจากเลือกตั้งผ่านไป นั่นแหละเวลาการดีเบตของจริง [Bick] And in all interviews or
in all the shows that you have been on,
[บิ๊ก] ซึ่งในทุกๆ สัมภาษณ์หรือรายการที่คุณไปออก another weapon that I really notice is that
อาวุธอีกชิ้นของคุณที่ผมสังเกตเห็นก็คือ it seems that you almost never lose it,
เหมือนว่าคุณไม่เคยหลุดเลย like lose your temper.
แบบว่าอารมณ์หลุดน่ะ Because this could be an evil move for a lot of people,
เพราะนั่นอาจเป็นแผนร้ายของใครหลายคน just to try to poke you and poke at you,
ที่อาจพยายามยั่วโมโหคุณ and try to get you like,
"Ah, get angry!" and then lose it.
พยายามทำให้คุณโกรธและคุมอารมณ์ไม่อยู่ And nothing seems to faze you that way.
แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรทำให้คุณหวั่นเกรงเลย How do you train your mind like that?
คุณฝึกฝนจิตใจอย่างไรให้เป็นแบบนั้นครับ [Mai] Sometimes I have to, you know…
[ไหม] บางครั้งไหมก็ต้อง… It's not because they try…
ไม่ใช่เพราะพวกเขาพยายาม… It's not that they're trying to poke me,
ไม่ใช่ว่าพวกเขาพยายามยั่วโมโหไหมหรอก but I'm intolerant to someone
who couldn't deliver their message clearly.
แต่ไหมทนไม่ได้เวลาเห็นคนพูดอะไรไม่ชัดเจน I am intolerable,
ทนไม่ได้เลย and I was like, "Ah!" sometimes.
บางครั้งเราก็จะ “อ้า!” So it's not that I'm so calm and confident.
ฉะนั้นไม่ใช่เพราะไหมใจเย็นและมั่นใจมากๆ [Bick] But you still manage to
always have a smile on your face, at least,
[บิ๊ก] แต่อย่างน้อยคุณก็ยังยิ้มได้ตลอดเวลา and never use rude words to fight back
with someone who's rude to you.
และไม่เคยใช้ถ้อยคำหยาบคายเพื่อตอกกลับ
คนที่หยาบคายใส่คุณ [Mai] Yes, that one doesn't trigger me,
[ไหม] ใช่ค่ะ นั่นไม่ได้กระตุกต่อมไหมเลย doesn't click with me.
ไม่ได้จี้จุดค่ะ But if they don't really deliver their thoughts,
แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถสื่อสารความคิดของตัวเองได้ I'm like, "Oh my God, what are they saying?"
ไหมจะแบบ “โอ้ย พูดอะไรเนี่ย” "I couldn't understand."
“ฟังไม่เข้าใจ” [Bick] Then you go home, and then you punch the doll.
[บิ๊ก] แล้วคุณก็กลับบ้านไป ต่อยตุ๊กตา Anger management.
การจัดการความโกรธครับ [Mai] Anger management.
[ไหม] การจัดการความโกรธ [Bick] So, at least a couple of times in your life,
[บิ๊ก] ฉะนั้น อย่างน้อยก็สองครั้งแล้วในชีวิต you had to go on a path that you didn't expect to go on,
ที่คุณเลือกเดินในหนทางที่คุณไม่ได้คาดคิด like when you were a researcher
เช่นตอนที่เป็นนักวิจัย and then you were asked to join a political party,
แล้วก็ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพรรคการเมือง not as a politician at first,
ตอนแรกไม่ใช่ในฐานะนักการเมือง and then one day you became an MP.
แต่แล้ววันหนึ่งคุณก็ได้เป็นสส. Do you see yourself in the future
becoming our next female PM?
คุณเห็นภาพตัวเองเป็นนายกฯ หญิงในอนาคตไหมครับ [Mai] I could be,
[ไหม] ไหมเป็นได้นะคะ but to think about that is not going to happen so soon.
แต่คิดแล้ว มันคงยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ I wish it's not going to happen so soon
และไหมหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ because if it becomes sooner,
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น it means that another party disbands
นั่นหมายความว่ามีพรรคการเมืองถูกยุบ or a new set of executive members,
หรือมีคณะบริหารใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก those things kind of coming back again.
อะไรเหล่านั้นก็จะกลับมาอีกครั้ง It's just less than four years ago
นี่ยังไม่ถึง 4 ปีเลย that we had this kind of event,
ที่เรามีเหตุการณ์แบบนั้น and it still hurts me sometime
บางเวลาไหมก็นึกเสียใจ that Future Forward Party was disbanded.
ที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ And to think about becoming
the next PM candidate means that…
และการที่ไหมขึ้นเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกฯ นั่นหมายความว่า… Khun Pita was gone, something like that.
คุณพิธาไปแล้ว อะไรแบบนั้น And I was like, "No, I don't want to be."
แบบนั้นไหมคง “ไม่เอา ไม่อยากเป็น” [Bick] Okay, just maybe, step by step.
[บิ๊ก] โอเค แค่อาจจะเนาะ ค่อยเป็นค่อยไป [Mai] So maybe in 10 years,
[ไหม] อาจจะอีก 10 ปี who knows,
ใครจะรู้ I could be.
ไหมอาจจะเป็นได้ก็ได้ค่ะ [Bick] So you're open to the possibility.
[บิ๊ก] เพราะฉะนั้นคุณก็ยังเปิดรับโอกาสอยู่ I think you must have been
asked about this before.
ผมคิดว่าคุณน่าจะเคยโดนถามเรื่องนี้มาก่อนแล้ว And each time you get asked this question,
แล้วแต่ละครั้งที่คุณถูกถามเรื่องนี้นั้น Is your thought like, keep changing?
ความคิดของคุณเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หรือเปล่า Like, maybe, maybe not?
แบบว่า อาจจะเป็น อาจจะไม่เป็น And then one day maybe,
แล้ววันหนึ่งก็กลับมา อาจจะเป็น and then going back to maybe not again?
แล้วก็กลับไป อาจจะไม่เป็น อีกครั้ง [Mai] It's the same thing when people ask
[ไหม] มันเหมือนกันกับเวลาที่คนถามว่า if you think you could be the Minister of Finance.
ไหมสามารถเป็นรัฐมนตรีคลังได้ไหม And I would tell them straight that
ไหมก็จะบอกพวกเขาตรงๆ ว่า I don't really fit for the minister position.
จริงๆ ไหมไม่เหมาะกับตำแหน่งรัฐมนตรีหรอก I'm kind of better suited for an advisor position,
ไหมเหมาะกับตำแหน่งที่ปรึกษามากกว่า not the one who runs the ministry.
ไม่ใช่เป็นคนที่ควบคุมกระทรวง There are a lot of people involved,
คนที่เกี่ยวข้องมีหลายภาคส่วน and I would be better to supply them with facts, data,
จะดีกว่าหากไหมเป็นคนให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง and alternative opinions, and stuff like that,
และความเห็นที่เป็นทางเลือกให้กับพวกเขา not just the one who decides.
แต่ไม่ใช่ไหมเป็นคนตัดสินใจ Even if I know that it would hurt the party
that I say something like this,
แม้จะรู้ว่าการที่ไหมพูดแบบนี้อาจกระทบต่อพรรค but I still talk straight.
แต่ไหมก็ยังอยากพูดตรงๆ And the same thing to the Prime Minister.
และเช่นเดียวกันกับกรณีนายกฯ I think I'd be better to be
the one next to the Prime Minister,
ไหมคิดว่าไหมเหมาะจะเป็นคนนั้นเคียงข้างนายกฯ just to give him advice,
ให้คำแนะนำเขา not that one.
แต่ไม่ใช่เป็นเขา [Bick] But if you have to be a Prime Minister one day,
[บิ๊ก] แต่ถ้าหากคุณต้องเป็นนายกฯ เข้าสักวัน would you be ready for it?
คุณจะพร้อมไหมครับ And what kind of Prime Minister
do you imagine yourself to be?
และคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นนายกฯ แบบไหน [Mai] Of course, I think I could be
if the opportunity comes,
[ไหม] แน่นอน ไหมเป็นได้ถ้าโอกาสเข้ามาถึง so I have to adjust myself.
ไหมต้องปรับตัว And I would say I would be
someone like Chancellor Angela Merkel.
และคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคนแบบ อังเกลา แมร์เคิล อดีตนายกฯ เยอรมนี I mean, we are not in the same
political ideology or stuff like that,
ไม่ได้หมายความว่าเรามีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบเดียวกันนะคะ but the media calls her the 'Steady Hand,'
แต่สื่อขนานนามเธอว่ามี ‘มือที่มั่นคง’ the one who is reliable,
เป็นคนวางใจได้ that sticks to principles,
ยึดมั่นในหลักการ and everything is predictable about what she will do.
ทุกสิ่งที่เธอกระทำคาดการณ์ได้ And most of the things that can be trusted.
และประชาชนสามารถไว้วางใจได้ [Bick] So that's the kind of leader
that you think you could be.
[บิ๊ก] นั่นคือผู้นำในแบบที่คุณสามารถเป็นได้ [Mai] It's not like the one who gives you hope
[ไหม] คงไม่ใช่คนที่จะนำมาซึ่งความหวัง with an aura on the head and stuff like that,
มีรัศมีแผ่บนหัวอะไรเทือกนั้น and talks very inspirationally.
แล้วก็พูดได้อย่างหึกเหิม That's not me.
นั่นไม่ใช่ไหม But you can trust because she's the ‘Steady Hand’
แต่คุณวางใจเธอได้เพราะเธอมี ‘มือที่มั่นคง’ and can do things that…
และทำสิ่งที่ [Bick] Very strong.
[บิ๊ก] หนักแน่น So things have been changing like crazy.
หลายๆ อย่างกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว I mean, only for the past year,
แค่มองย้อนไปในปีที่ผ่านมา a lot has happened.
เกิดเรื่องมากมายหลายอย่างขึ้น [Mai] Oh, tell me about it.
[ไหม] โอ้ จริงทุกประการค่ะ [Bick] And who knows, in the next one year
[บิ๊ก] ใครจะรู้ว่าในอีกหนึ่งปีข้างหน้า or the next two years,
things might be changing again.
หรือสองปีข้างหน้า ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปอีกครั้ง Or in the next three years,
things might be changing again.
หรือสามปีข้างหน้า ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปอีกครั้ง So, well, for the past year,
คือว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา I mean, Move Forward party has presented us
with a new kind of politicians,
พรรคก้าวไกลได้นำเสนอนักการเมืองรูปแบบใหม่ especially the new gen politicians.
โดยเฉพาะนักการเมืองรุ่นใหม่ So, I'm curious, what do you think
the next generation of politicians
ผมเลยอยากรู้ว่าคุณคิดว่านักการเมืองยุคถัดไป that Thailand would need in the future?
ที่ประเทศไทยต้องการในอนาคตควรมีคุณสมบัติอะไร [Mai] I think it's going to be the same
characteristics as this generation of politicians,
[ไหม] ไหมว่าก็คงเป็นคุณลักษณะเดียวกับที่นักการเมืองยุคนี้มี but there will be more variety,
แต่จะต้องมีความหลากหลายมากขึ้น more diversity.
มีความแตกต่างเพิ่มขึ้น We'll have more people who are disabled
เราจะมีผู้แทนที่เป็นผู้พิการมากขึ้น because in this session,
เพราะในช่วงนี้ I don't see any disabled persons becoming…
ไหมไม่เห็นว่ามีผู้พิการคนไหนได้เป็น… [Bick] Representation, yeah.
[บิ๊ก] ผู้แทน [Mai] And maybe more female MPs in the parliament,
[ไหม] แล้วก็อาจจะมีสส.หญิงมากขึ้นในสภา just to make the representation more representable.
เพื่อให้การเป็นผู้แทนสมดุลยิ่งขึ้น You know, people from all the minority groups,
มีผู้คนจากชนกลุ่มน้อย from the indigenous people, and stuff like that.
หรือชนพื้นเมืองเข้ามามากขึ้นอะไรทำนองนั้น I think it would be exactly like what we see
in the new generation of politicians nowadays,
ไหมว่าคงเป็นเหมือนกับนักการเมืองรุ่นใหม่ทุกวันนี้เป๊ะๆ but in a greater proportion of them
เพียงแค่มีสัดส่วนที่มากกว่า and more diversity.
และมีหลากหลายกว่า [Bick] Okay, and besides the identity thing,
[บิ๊ก] โอเค นอกเหนือจากเรื่องอัตลักษณ์แล้ว how about the skills?
ทักษะล่ะครับ What kind of skills do you think Thai politicians,
ทักษะอะไรที่คุณคิดว่านักการเมืองไทยควรมี especially the MPs, would need?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสส. [Mai] It's a parliament,
[ไหม] มันคือสภาอะเนาะ so they have to have the public speaking skill.
พวกเขาต้องมีทักษะการพูดในที่สาธารณะ I mean, parliament is the place to speak
สภาคือสถานที่สำหรับการพูด because it's from the "parler" in French.
เพราะมันมาจากคำว่า “พูด” ในภาษาฝรั่งเศส So there's not another way,
เพราะงั้นไม่มีทางอื่น you cannot write.
จะมาเขียนไม่ได้ [Bick] Okay, just read what I have written here!
[บิ๊ก] เอาล่ะ จงอ่านสิ่งที่ฉันได้บรรจงเขียนซะ! [Mai] Too bad.
[ไหม] แย่เกินไปค่ะ [Bick] Yeah, you have to be able to
present your idea and be interesting.
[บิ๊ก] ครับ ต้องสามารถนำเสนอความคิดและเป็นคนน่าสนใจ [Mai] Of course,
[ไหม] ถูกต้อง it's something that I have to improve myself.
เป็นสิ่งที่ไหมต้องพัฒนาตัวเองด้วย [Bick] But I really like how you say that
[บิ๊ก] แต่ผมชอบที่คุณพูดว่า you're still adjusting and learning
คุณกำลังปรับตัวและกำลังเรียนรู้ because that's what we need to keep doing, right?
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราควรทำไปตลอดใช่ไหม [Mai] Right, you cannot stop improving yourself, right?
[ไหม] ใช่ คุณหยุดพัฒนาตัวเองไม่ได้ใช่ไหมล่ะ Kaizen!
ไคเซน! [Bick] Kaizen! Exactly.
[บิ๊ก] ไคเซน! ใช่เลย So, you have mentioned once the possibility
of becoming the Minister of Finance,
โอเค เมื่อกี้คุณพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นรัฐมนตรีคลัง and maybe it could happen in the future or even more.
ซึ่งอาจเป็นไปได้ในอนาคตหรือยิ่งกว่านั้น So, let's play some games
มาเล่นเกมกันซักหน่อยดีกว่าครับ because I want to know you more
เพราะผมอยากรู้จักคุณให้มากขึ้น on how you spend your money.
ว่าคุณมีสไตล์การใช้จ่ายเงินอย่างไร So, are you good at spending money?
คุณใช้เงินเก่งไหม [Mai] Of course.
[ไหม] เก่งสิ [Bick] So, do you buy a lot of stuff?
[บิ๊ก] คุณซื้อของเยอะไหม [Mai] I kind of do shopping therapy sometimes.
[ไหม] ไหมก็มีการชอปปิงบำบัดบ้าง [Bick] Oh, really? Wow!
[บิ๊ก] โอ้ จริงเหรอเนี่ย ว้าว! [Mai] Like, when you're in a lot of meetings,
[ไหม] เวลาต้องประชุมเยอะๆ from Monday to Friday, from 9 am to 9 pm,
จันทร์ถึงศุกร์ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม and I couldn't go anywhere,
แล้วไปไหนไม่ได้ I couldn't go to shop.
ไปชอปหน้าร้านก็ไม่ได้ So, I have to do online shopping
as a shopping therapy.
ก็ต้องชอปออนไลน์เพื่อเป็นการบำบัด [Bick] So, what kind of stuff do you buy
that can heal you the best?
[บิ๊ก] แล้วมีของอะไรบ้างที่คุณเยียวยาคุณได้ดีที่สุด [Mai] Anything.
[ไหม] อะไรก็ได้ Anything from clothes, shoes, to dishwasher cleanser.
ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ยันเครื่องล้างจาน Anything.
อะไรก็ได้เลย [Bick] Maybe it's not the stuff,
[บิ๊ก] อาจจะไม่ได้อยู่ที่ของ but the action of paying and buying.
แต่เป็นการได้จ่ายเงินและซื้อสิ่งของ [Mai] Yes, it's the power.
[ไหม] ใช่ค่ะ มันมีพลัง [Bick] Okay, let's play the game
[บิ๊ก] โอเค มาเล่นเกมกัน "And My Money Goes To…"
That's the name of the game.
“ฉันขอฟาดเงินไปที่…” นั่นคือชื่อเกมครับ So, first one: a place to live.
เอาล่ะข้อแรก สถานที่อยู่อาศัย If you have two options,
คุณมีสองทางเลือก would you go for a huge, nice house,
จะเลือกบ้านเดี่ยวใหญ่ๆ ดีๆ or a condo with a premium, prime location?
หรือคอนโดพรีเมียมใจกลางเมือง [Mai] And my money goes to condominium.
[ไหม] ขอฟาดเงินไปที่คอนโด [Bick] Condo? Okay,
[บิ๊ก] คอนโดเหรอ โอเค so you don't require a lot of space?
งั้นคุณคงไม่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากมายสินะ [Mai] No, look into my lifestyle,
[ไหม] ไม่ค่ะ ดูจากวิถีชีวิตไหมแล้ว I walk in less than a five-meter radius.
ไหมเดินไปมาในรัศมีน้อยกว่า 5 เมตรอีกค่ะ [Bick] Okay, you don't walk much.
[บิ๊ก] โอเค คุณไม่ค่อยเดิน [Mai] I can fit in a condo.
[ไหม] ไหมอยู่ในคอนโดได้ค่ะ [Bick] So, condo.
[บิ๊ก] ก็เป็นคอนโด So, would you care to guess
คุณอยากลองเดาไหมว่า how much you would have to pay
for the house on the left
คุณต้องจ่ายเงินเท่าไหร่สำหรับบ้านในรูปซ้าย and how much for the condo on the right?
และเท่าไหร่สำหรับคอนโดในรูปขวา [Mai] If this is in the prime location,
[ไหม] ถ้าอยู่ในทำเลทอง it could take up to 20 million?
อาจแพงถึง 20 ล้านไหมนะ [Bick] 20 million, okay. How about the condo?
[บิ๊ก] 20 ล้าน โอเค แล้วคอนโดล่ะครับ [Mai] It's up to the size,
[ไหม] ขึ้นอยู่กับขนาดด้วยนะ so I'd go for 200,000 baht per square meter.
ไหมขอเดาที่ประมาณ 200,000 บาทต่อตารางเมตร [Bick] So, the price on the house is…
[บิ๊ก] เอาล่ะ ราคาบ้านอยู่ที่… 65 million.
65 ล้านบาท [Mai] So maybe it's in Lang Suan.
[ไหม] อาจจะอยู่ในย่านหลังสวนนะคะ [Bick] Yeah, houses are
so expensive these days, don't you think?
[บิ๊ก] บ้านสมัยนี้แพงเนอะ คุณว่าไหม [Mai] Of course, it's a phenomenon around the world
[ไหม] ใช่ค่ะเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลกเลย that housing prices are increasing
very rapidly compared to wage increases.
ราคาบ้านกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเทียบกับค่าแรง It becomes that people cannot afford
their own house anymore,
สูงจนคนไม่มีกำลังซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้แล้ว especially in Bangkok,
โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ in a big city.
ในเมืองใหญ่ [Bick] How can we help people
to be able to own houses more?
[บิ๊ก] แล้วเราจะช่วยให้คน
เป็นเจ้าของบ้านกันได้มากขึ้นได้อย่างไร [Mai] We have this affordable housing policy that
[ไหม] เราก็มีนโยบาย ที่อยู่อาศัยที่เข้าถึง ได้นะคะ we think the public should stock their own land,
เรามองว่าภาครัฐควรดึงที่ดินของตัวเองกลับ you know, from Ratchaphatsadu Land or anywhere.
จากที่ราชพัสดุหรือที่ต่างๆ You've seen a lot of abandoned land in the city, right?
เราต่างเห็นพื้นที่ทิ้งร้างมากมายในเมือง So, they should buy them
รัฐควรซื้อที่เหล่านั้น and build better housing than the current ones
แล้วสร้างโครงการบ้านที่ดีกว่าปัจจุบัน from the National Housing Agency.
จากการเคหะแห่งชาติ Or National Housing Agency would
build a flat that is not livable,
การเคหะแห่งชาติอาจสร้างห้องชุดที่ไม่น่าอยู่ you know, very far away,
อยู่ไกลออกไป far from markets,
ไกลจากตลาด far from jobs.
ไกลจากที่ทำงาน That is not…
ที่ไม่… [Bick] From transportation.
[บิ๊ก] ไกลจากขนส่ง [Mai] From public transportation as well.
[ไหม] ไกลจากขนส่งสาธารณะด้วย [Bick] All right, next thing to buy.
[บิ๊ก] เอาล่ะ สิ่งของชิ้นต่อไป Car!
รถยนต์! You just bought a car.
คุณเพิ่งซื้อรถเลยนี่ [Mai] I just bought a car.
[ไหม] ไหมเพิ่งซื้อรถค่ะ [Bick] Okay, but we have options here.
[บิ๊ก] โอเค เรามีตัวเลือกให้ Would you go for a sports car,
คุณจะเลือกซื้อรถสปอร์ต a flashy sports car,
หรูๆ ซิ่งๆ obviously very fast,
ซึ่งดูท่าแล้วแรงมากแน่ๆ or a very luxurious one on the right?
หรือรถเรียบหรูผู้ดีทางขวา [Mai] I would…
[ไหม] ไหมขอเลือก [Bick] If you have money to spend
[บิ๊ก] ถ้าคุณมีเงินซื้อะไรก็ได้ [Mai] So, my money goes to the luxurious one.
[ไหม] ขอฟาดไปที่รถหรูค่ะ [Bick] Oh, okay, so no sports car?
[Mai] So, it better be comfortable.
[บิ๊ก] โอ้ ไม่เอารถสปอร์ตเหรอครับ
[ไหม] ขอนั่งสบายๆ ดีกว่า [Bick] You don't want to go fast?
[บิ๊ก] คุณไม่อยากซิ่งเหรอ [Mai] I wouldn't drive by myself
if I could afford this kind of car.
[ไหม] ไหมคงไม่ขับเองอยู่แล้วถ้าซื้อรถแบบนี้ไหวน่ะค่ะ I would sit back and relax,
ขอนั่งพิงหลังสบายๆ ดีกว่า so we need some comfort there.
จุดนั้นเราต้องการความสบายค่ะ [Bick] Any ideas on
what the price of each car would be?
พอจะรู้ไหมครับว่าแต่ละคันราคาน่าจะสักเท่าไหร่ [Mai] I have absolutely no idea.
[ไหม] ไม่รู้เลยค่ะ [Bick] Okay, and the price…
[บิ๊ก] โอเค ขอราคาครับ [Bick] Oh God.
[บิ๊ก] คุณพระ [Mai] I couldn't imagine there was any car
that costs almost a billion.
[ไหม] ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีรถที่ราคาเกือบพันล้านดอลลาร์ [Bick] Yeah, I know.
[บิ๊ก] ใช่ [Mai] This is almost as much as
we budget for a department.
[ไหม] นี่เกือบเท่างบที่เราจัดให้กรม 1 กรมแล้วนะ I just came from the budget bill committee,
ไหมเพิ่งกลับจากประชุมคณะกรรมการงบประมาร this is too much.
รถนี่แพงเกินค่ะ [Bick] Just give us one car,
and then we can make one policy come true.
[บิ๊ก] ขอรถหนึ่งคัน แล้วหนึ่งนโยบายในฝันจะเป็นจริง All right, next thing to shop for:
เอาล่ะ ต่อไป the trip.
ทริปท่องเที่ยว [Bick] Do you travel a lot?
[บิ๊ก] คุณเที่ยวบ่อยไหม [Mai] I used to,
[ไหม] เคยเที่ยวบ่อยค่ะ but not anymore.
แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว [Bick] Yeah, unfortunately you don't have time.
[บิ๊ก] ครับ คุณคงไม่ค่อยมีเวลาแล้ว [Mai] Yeah, for 5 years.
[ไหม] ใช่ค่ะ 5 ปีแล้ว [Bick] Did you go anywhere during the New Year holiday?
[บิ๊ก] ช่วงปีใหม่คุณได้ไปเที่ยวไหนไหม [Mai] No, if I go up the country, I go to work.
[ไหม] ไม่ค่ะ ไปต่างจังหวัดก็ไปทำงาน If I go abroad, I go to work.
ไปต่างประเทศก็ไปทำงาน [Bick] Okay, the life of Sirikunya.
[บิ๊ก] โอเค ชีวิตของศิริกัญญา Okay, but if you have time and money,
ถ้าคุณมีเวลาและมีสตางค์ and you can choose between
a Japan trip and a Scandinavian one,
เลือกได้ระหว่างทริปไปญี่ปุ่นกับสแกนดิเนเวีย which would you buy?
คุณจะซื้อที่ไหน [Mai] Right now, I would say the Scandinavian trip
[ไหม] ตอนนี้ คงขอตอบทริปไปสแกนดิเนเวียค่ะ because I've been to Japan for some time already,
เพราะเคยไปญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว but I've never been to Scandinavian countries.
แต่ไม่เคยไปประเทศแถบสแกนดิเนเวีย It would be a whole new experience for me.
คงจะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับไหม [Bick] I hope this trip would come true.
[บิ๊ก] หวังว่าทริปนี้จะเกิดขึ้นจริงนะครับ [Mai] So, let's see the price.
[ไหม] มาดูราคากัน [Bick] Let's see the price.
[บิ๊ก] ขอดูราคาครับ It's around a hundred thousand baht.
ประมาณหนึ่งแสนบาท [Mai] So, I've got to save up some money.
[ไหม] ต้องเก็บเงินสักหน่อยค่ะ [Bick] I think that's for like 10 days also.
[บิ๊ก] แต่นั่นก็ประมาณ 10 วันเลยด้วยนะ So kind of a long trip.
เป็นทริปที่ค่อนข้างยาวเลย [Mai] So, maybe it's worth it, huh?
[ไหม] น่าจะคุ้มเนอะ [Bick] Yeah, I think so too.
[บิ๊ก] ใช่ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น All right, the next thing to buy:
เอาล่ะ ของชิ้นถัดไป a bag.
กระเป๋า Like a designer bag.
กระเป๋านักออกแบบเก๋ๆ So, the one on the left, a very famous,
notorious Balenciaga, I think.
ใบทางซ้ายน่าจะของแบรนด์ บาเลนเซียกา ชื่อดัง And the one on the right,
I think is like the classic, huge brand.
ส่วนใบทางขวาน่าจะแบรนด์คลาสสิกยักษ์ใหญ่ So, which would you go for?
คุณจะเลือกใบไหนครับ [Mai] Of course, I'm the classic girl,
[ไหม] แน่นอค่ะ ไหมเป็นผู้หญิงคลาสสิก so I would go for Louis Vuitton.
ต้องเลือก หลุยส์ วิตตอง อยู่แล้ว [Bick] So, would you use
crazy-looking stuff like this just for fun?
[บิ๊ก] คุณจะเลือกกระเป๋าหน้าตาประหลาดๆ เล่นๆ ไหมครับ [Mai] I couldn't afford it anyway,
[ไหม] ยังไงไหมก็ซื้อไม่ไหวอยู่แล้ว so I would use a similar one from Sam Pheng for fun.
อาจจะใช้ใบหน้าตาคล้ายๆ กันจากสำเพ็งเล่นๆ [Bick] Oh, yeah, you could totally fool people with that.
[บิ๊ก] โอ้ แค่นั้นก็ตบตาคนได้แล้วนะ All right, so the price, please.
เอาล่ะ ขอราคาหน่อยครับ Not too bad, huh? If you look at it as an investment,
ไม่แย่นะ ถ้ามองว่าเป็นการลงทุน [Mai[ Really?
[Bick] because you can resell it.
[ไหม] เหรอคะ
[บิ๊ก] เพราะคุณขายต่อได้ [Mai] Because this is kind of a model,
[ไหม] เพราะตัวเป็นตัวรุ่นปกติเฉยๆ it's not the one that you can invest in.
ไม่ใช่รุ่นที่ลงทุนได้ [Bick] Oh! Okay, so you know your stuff, huh?
[บิ๊ก] โอ้! โอเค คุณมีความรู้เรื่องนี้ใช่ไหม Do you know things about investing in bags?
คุณรู้เรื่องการลงทุนในกระเป๋าไหม [Mai] I mean, of course, during COVID,
[ไหม] แน่นอนค่ะ ช่วงโควิด there's been a lot of slump in the stock market,
ตลาดหุ้นตกหนัก so people try to find alternative investments.
หลายคนพยายามหาทางเลือกการลงทุน Some said that Channel could beat
the S&P 500 returns in 10 years.
บ้างบอกว่ากระเป๋าชาแนลสามารถเอาชนะ
ผลตอบแทนของดัชนี S&P ใน 10 ปีได้ So, yeah, maybe, but not this one.
ฉะนั้น ใช่ค่ะ เป็นไปได้ แต่ไม่ใช่ใบนี้ [Bick] Not this one. Okay, all right.
[บิ๊ก] ไม่ใช่ใบนี้ โอเคครับ ชัดเจน The next thing to buy, please.
ขอของชิ้นถัดไปครับ So, food.
อาหาร Are you a big foodie?
คุณเป็นนักกินตัวยงหรือเปล่า [Mai] I'm a foodie.
[ไหม] ไหมชอบกินค่ะ [Bick] So, obviously, we have some
luxurious items on the menu today.
[บิ๊ก] เห็นได้ชัดว่าวันนี้เมนูเรามีของหรูหรา So, would you go for some caviar or uni?
คุณจะรับคาเวียร์หรืออูนิครับ [Mai] My money will go to uni.
[ไหม] ขอฟาดไปที่อูนิค่ะ I really love uni.
ไหมชอบอูนิมาก [Bick] Really?
[บิ๊ก] จริงเหรอ [Mai] Yes, I've been to one restaurant
where they put uni in everything,
[ไหม] ใช่ค่ะ เคยไปร้านนึงเขาใส่อูนิในทุกเมนูเลย from steak to spaghetti and salad.
ตั้งแต่สเต็ก ยันสปาเกตตี้ ยันสลัด [Bick] Does it taste good?
[บิ๊ก] อร่อยไหม [Mai] Of course, but when it's too much,
it's kind of overwhelmed with taste.
[ไหม] อร่อยสิ แต่พอมากไป มันก็กลบรสชาติน่ะ [Bick] But how about caviar?
[บิ๊ก] แล้วคาเวียร์ล่ะ [Mai] I don't know, I don't like caviar.
[ไหม] ไม่รู้สิ ไม่ชอบคาเวียร์ค่ะ [Bick] Do you know roughly the price of each food?
[บิ๊ก] คุณพอจะรู้ราคากลมๆ ของทั้งสองอย่างนี้ไหม [Mai] No,
[ไหม] ไม่เลย I mean there's a lot of grades of uni, right?
คือว่าอูนิน่าจะมีหลายเกรดใช่ไหม It depends on whether it's frozen or not,
ขึ้นอยู่กับว่าแช่แข็งหรือเปล่าด้วย and so I couldn't tell from fresh eyes
if these are good quality ones or not.
ดูด้วยตาเปล่า บอกไม่ได้ว่าพวกนี้ของดีหรือเปล่า [Bick] That's true.
[บิ๊ก] จริงด้วยครับ [Mai] And the caviar, I never bought one.
[ไหม] ส่วนคาเวียร์นี่ไม่เคยซื้อค่ะ [Bick] Okay, do we have the price on it?
[บิ๊ก] โอเคครับ เรามีราคาไหม Wow, that's almost like…
ว้าว นั่นเกือบจะ [Mai] Looking at the weight,
it's a hundred grams, right?
[ไหม] ดูที่น้ำหนักสิคะ หนึ่งร้อยกรัม ใช่ไหม So it's a big part.
ใหญ่นะนั่น [Bick] I had no idea it could be this expensive.
[บิ๊ก] ไม่ยักรู้ว่าจะแพงได้ขนาดนี้ I know it's expensive, but that expensive?
คือรู้นะว่าแพง แต่แพงขนาดนี้เลยเหรอ All right, the next thing to shop for.
เอาล่ะ สิ่งของชิ้นถัดไปให้เลือกสรร So, do you drink?
คุณดื่มไหม Sometimes? Or a lot?
เป็นครั้งคราวหรือบ่อยเลย [Mai] Of course, not too much,
[ไหม] ค่ะ แต่ไม่หนักนะ because my liver couldn't process alcohol well anymore.
ตับไหมย่อยแอลกอฮอล์ไม่ค่อยดีแล้ว I'm getting old.
เริ่มแก่ค่ะ [Bick] Okay, so what kind of beverage
would you indulge yourself with?
[บิ๊ก] โอเค เครื่องดื่มชนิดไหนที่คุณเลือกปรนเปรอตัวเองครับ Like an expensive bottle of wine,
the top class of wine,
ไวน์ชั้นเลิศขวดแพงๆ or the cool and creative Thai local spirits,
หรือสุราพื้นบ้านของเราซึ่งเก๋ๆ แล้วก็สร้างสรรค์ and really, really high in demand also nowadays, I think.
แล้วก็ผมว่ากำลังฮอตมากๆ ในช่วงนี้ [Mai] Of course, my money would go to the local spirits.
[ไหม] แน่นอนว่า เงินไหมต้องขอฟาดไปที่สุราพื้นบ้านค่ะ Not because I don't like wine,
ไม่ใช่เพราะไม่ชอบไวน์นะ but my tongue has some limits.
แต่ลิ้นไหมก็มีขีดจำกัดค่ะ If it's over 2,000 baht per bottle, I couldn't tell anymore.
ถ้าแพงเกินขวดละสองพันนี่เริ่มแยกไม่ออกละ People would say that it's about taste,
คนปกติก็จะบอกว่าที่แตกต่างคือรสชาติ and I spent my time in France,
ซึ่งไหมก็เคยอยู่ฝรั่งเศสมา but I still couldn't distinguish the taste of expensive wines,
แต่ก็แยกรสชาติไวน์แพงๆ ไม่ออก so my bad.
ฉะนั้นผิดที่ไหมเองค่ะ So I would go for local spirits
to support local entrepreneurs.
ขอเลือกสุราพื้นบ้านเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยดีกว่า [Bick] I was going to ask,
[บิ๊ก] กำลังจะถามเลยครับ you were spending how many years in France?
คุณอยู่ฝรั่งเศสกี่ปีนะ [Mai] Two years.
[ไหม] สองปีค่ะ [Bick] Two years, okay.
So, before that time, did you drink wine,
[บิ๊ก] สองปี แล้วก่อนหน้านั้นดื่มไวน์ไหม or did you kind of start drinking wine
during your time in France?
หรือเพิ่งไปเริ่มดื่มตอนอยู่ฝรั่งเศส [Mai] Of course, I drank wine before going to France,
[ไหม] ไหมดื่มตั้งแต่ก่อนไปฝรั่งเศสแล้ว but in France, it's very, very cheap,
แต่ที่ฝรั่งเศสน่ะไวน์ถูกมากๆ and you can find drinkable wine at a very cheap price.
ไวน์รสชาติดีราคาถูกนี่หาได้ทั่วไปเลย Just go around the corner,
เดินไปหัวมุมถนน and you'll see stores where
the shopkeeper would give you advice.
ก็จะเจอร้านไวน์พร้อมคุณเจ้าของร้านออกมาแนะนำ I love to cook,
ไหมชอบทำอาหาร so I would ask them, if I want to make risotto,
what kind of wine would you suggest?
ก้จะถามว่าถ้าอยากทำรีซอตโต้ต้องใช้ไวน์แบบไหน French people would say that
there's no such thing as cooking wine.
คนฝรั่งเศสก็จะบอกว่าไวน์ทำอาหารน่ะไม่มีหรอก You have to use a good wine
that you can drink to cook,
ต้องใช้ไวน์ดีๆ ที่คุณดื่มนั่นแหละทำ not cooking wine.
ไม่ใช่ไวน์สำหรับทำอาหาร So, it's their way, I guess, but it's not expensive.
วิถีพวกเขาแหละ แต่ไม่แพงค่ะ [Bick] The French really know how to live, huh?
[บิ๊ก] คนฝรั่งเศสก็จะรู้วิถีชีวิตจริงเนอะ So, but for now, supporting our local.
แต่ตอนนี้ก็สนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น [Mai] Of course, Sangvein is a brand from Suphan Buri, right?
[ไหม] แน่นอนค่ะ สังเวียน เป็นแบรนด์จากสุพรรณฯ That makes spirits from sugar cane.
ทำสุราจากอ้อย That's a very good way to process the local products
into something that's more value-added.
เป็นวิธีการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าพื้นบ้านได้อย่างดี [Bick] Wow, so cool.
[บิ๊ก] ว้าว เจ๋งเวอร์ All right, do we have more items?
ครับ มีอีกไหมครับ Oh! That's the price!?
โอ้! นั่นราคาเหรอ Wait a minute.
เดี๋ยวนะ [Mai] I told you I stopped at 2,000 baht per bottle.
[ไหม] ไหมบอกแล้ว ไหมหยุดตั้งแต่ขวดละ 2,000 แล้ว [Bick] So, you wouldn't be able to tell
the excellence of that 19 million!?
[บิ๊ก] คุณจะไม่สามารถบอกถึงความเลิศล้ำของไวน์ 19 ล้านเหรอ Million!?
ล้านเหรอ! 19 million baht wine?
ไวน์ 19 ล้านบาทเนี่ยนะ [Mai] You know, I could go for
retirement by buying this one.
[ไหม] ไหมเกษียณได้เลยนะ แทนที่จะซื้อไวน์นี่น่ะ [Bick] อันนี้เกือบจะได้อีกงบ
ของอีกสักหนึ่งกระทรวง ทบวง กรม [Mai] ใช่ อีกสักกรมหนึ่ง [Bick] ได้อีกสักกรมหนึ่งนะครับ Okay, next item please.
โอเค สินค้าชิ้นถัดไปครับ Accessories.
เครื่องประดับ Do you have a lot of accessories on you? I don't see…
คุณไหมมีเครื่องประดับหลายชิ้นบนตัวใช่ไหม ไม่เห็นมี… [Mai] Look at me.
[ไหม] ดูสิคะ [Bick] No, okay, so you don't wear
anything like rings or bracelets?
[บิ๊ก] ไม่มี โอเค ไม่ใส่แหวนหรือกำไลเลยเหรอครับ [Mai] No, not that much.
[ไหม] ไม่ค่ะ ไม่ค่อยเลย I tried, but actually,
I don't have much time in the morning,
เคยพยายาม แต่เอาจริงๆ เช้าๆ ไม่มีเวลามากนักค่ะ so I avoid putting a lot of things on me.
เลยเลี่ยงการต้องมาคอยสวมอะไรหลายๆ ชิ้น Everything must be quick.
ทุกอย่างต้องเร็ว Every morning is so rushed.
ทุกเช้าคือการเร่งรีบ [Bick] But if you have to spend money
on some sort of accessories,
[บิ๊ก] แต่ถ้าคุณต้องใช้เงินกับเครื่องประดับบางอย่าง like in this case, a bracelet,
อย่างเช่น กรณีนี้ กำไล which one would you go for?
คุณจะเลือกกำไลแบบไหนครับ The one on the left seems to be some superstitious items,
ด้านซ้ายดูเหมือนเป็นกำไลมูอะไรสักอย่าง so it's like the…
เหมือนว่าเป็น… What's the word?
เขาใช้คำว่าอะไรนะ Like spiritual or…
ยึดเหนี่ยวจิตวิญญาณหรือ… an amulet,
เครื่องราง but superstitious.
แต่สายมู And of course, the one on the right is like jewelry.
แต่แน่นอนว่าทางขวาคือเครื่องเพชรพลอย [Mai] I couldn't tell that these were sacred amulets.
[ไหม] ไหมมองไม่ออกนะว่านั่นคือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ I thought they were like exotic things.
คิดว่าเป็นของจากประเทศอื่นเฉยๆ [Bick] Oh, okay, but apparently, this is…
[บิ๊ก] โอ้ โอเค แต่เท่าที่เห็น อันนี้คือ… [Mai] So, this is not my kind of things too.
[ไหม] อันนี้ก็ไม่ใช่สไตล์ไหมเช่นกัน [Bick] Are you into superstitious ideas at all?
[บิ๊ก] คุณไหมมูบ้างไหมครับ [Mai] Not at all.
[ไหม] ไม่เลยค่ะ I mean I should have studied more about this,
ไหมควรจะศึกษาเรื่องนี้มากกว่านี้ but I haven't understood it that much.
แต่ไหมไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ค่ะ So, I will go for a simple half eternity diamond ring.
ฉะนั้นขอไปที่แหวนเพชรครึ่งวงเรียบๆ ดีกว่าค่ะ [Bick] Would you care to see the price on it?
[บิ๊ก] อยากดูราคาไหมครับ Do you have 129,000 baht on you right now?
ตอนนี้คุณมี 129,000 ไหมครับ [Mai] It's more than a month of my salary,
[ไหม] เยอะกว่าเงินเดือนทั้งเดือนอีกค่ะ So I have to save up.
ต้องเก็บเงินละ [Bick] Maybe working for two months
and then come and buy this thing.
[บิ๊ก] อาจจะทำงานสักสองเดือนแล้วค่อยมาซื้อแหวนนี่นะ [Mai] Now you know why I don't wear any accessories.
[ไหม] ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมคะทำไมไหมไม่ใส่เครื่องประดับเลย [Bick] Okay, this is very interesting.
[บิ๊ก] โอเค อันนี้น่าสนใจ So, just by looking at them,
แค่มองอย่างเดียวเนี่ย can you tell what they are?
คุณไหมบอกได้ไหมครับว่ามันคืออะไร If you have to guess.
ถ้าต้องเดา [Mai] The thing on the left…
[ไหม] ด้านซ้ายเนี่ย [Bick] But it's the gadget and high technology thing.
[บิ๊ก] แต่อยู่ในหมวดแกดเจ็ตนะครับ เป็นของเทคโนโลยีล้ำ [Mai] I couldn't tell.
[ไหม] มองไม่ออกค่ะ It could be like a smart speaker, like Alexa,
เป็นลำโพงอัจฉริยะเหมือนอเล็กซาเหรอ that comes in the form of a cushion, or…
แต่มาในรูปแบบของเบาะรอง หรือว่า… [Bick] But actually, if you can see the finger,
[บิ๊ก] ถ้าดูจากนิ้วมือนั้น I think that's a finger for scale, it's really small,
เทียบกับขนาดนิ้วมือ มันเล็กอยู่นะ and actually, it's a robot,
จริงๆ แล้วมันคือหุ่นยนต์ครับ like a robot buddy
หุ่นยนต์เพื่อน that could double as your speaker, your projector,
ที่สามารถเป็นได้ทั้งลำโพง เครื่องฉายภาพ and it can follow you around.
และติดตามคุณไปมา [Mai] Nice.
[ไหม] เยี่ยมเลย [Bick] So, it's a very high technology thing,
[บิ๊ก] ฉะนั้นเป็นของเทคโนโลยีชั้นสูงครับ and the one on the left,
ส่วนของด้านซ้าย no, the right?
ไม่สิ ด้านขวา [Mai] It's kind of changeable paints or…
[ไหม] เป็นภาพที่เปลี่ยนได้หรือ… [Bick] Actually, it's a transparent TV set.
[บิ๊ก] จริงๆ แล้วคือทีวีโปร่งใสครับ It's a screen like a transparent screen,
เป็นจอโปร่งใส so this is really new.
ฉะนั้นอันนี้ใหม่มากๆ So, if you have a lot of money
ถ้าคุณมีเงินมหาศาล and you want to entertain yourself
with a piece of technology,
และอยากเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีสักชิ้น which one would you go for?
คุณจะเลือกชิ้นไหนครับ [Mai] Of course, my money would go for
that best buddy in yellow.
[ไหม] แน่นอนว่าเงินไหมต้องไปลงที่เพื่อนรักสีเหลือง [Bick] You wouldn't care for like the huge TV?
[บิ๊ก] ไม่อยากได้ทีวีเครื่องโตเหรอครับ [Mai] No.
[ไหม] ไม่ค่ะ [Bick] No? Okay.
[บิ๊ก] ไม่เหรอ โอเคครับ So, why do you want a robot companion?
แล้วทำไมถึงอยากได้เพื่อนหุ่นยนต์ล่ะ [Mai] Yes, of course. I spend most of my time at home alone,
[ไหม] ส่วนใหญ่ไหมอยู่บ้านคนเดียวค่ะ so I'd better have someone to talk to.
คงจะดีถ้ามีคนคุยด้วย I used to talk to the assistant in the car sometimes,
บางครั้งไหมก็คุยกับหุ่นยนต์ผู้ช่วยในรถยนต์ I mean, just to entertain myself,
เล่นสนุกเฉยๆ น่ะค่ะ get me out of the loneliness.
คลายเหงาบ้าง So, it's better to have that.
คงจะดีถ้ามีเจ้านั่น And I like to watch movies and series,
อีกอย่างไหมชอบดูหนังและซีรีส์ and I'm struggling with my projector right now.
และช่วงนี้ปวดหัวกับโปรเจ็กเตอร์อยู่ I try to project them onto the ceiling
ไหมพยายามฉายภาพหนังขึ้นเพดาน so I can lay down and watch movies up on the ceiling.
แล้วก็นอนดูหนังบนเพดาน [Bick] That's a very lazy pose, I might say,
[บิ๊ก] ท่านั้นดูขี้เกียจมากเลยนะครับ ขอบอก but of course, I dream of having that in my bedroom also.
แต่แน่นอน ผมก็ฝันอยากมีไว้ในห้องนอนเหมือนกัน [Mai] Yeah, but I'm struggling, I couldn't do it right.
[ไหม] ใช่ค่ะ แต่ก็ทุลักทุเลอยู่ ยังทำไม่ได้ The detail is not right,
รายละเอียดภาพไม่ปกติน่ะค่ะ so I'd better have the one
that is smart enough to do it itself.
คงดีกว่าถ้ามีเครื่องที่ฉลาดพอจะทำได้ด้วยตัวมันเอง [Bick] Okay, all right, maybe just
keep your eye on the gadget.
[บิ๊ก] โอเค จับตามองแกดเจ็ตไว้นะครับ [Bick] Do you want to guess a price?
[Mai] How much?
[บิ๊ก] อยากเดาราคาไหมครับ
[ไหม] เท่าไหร่ค่ะ [Bick] You want to guess?
[บิ๊ก] อยากเดาไหม [Mai] 20,000?
[ไหม] 20,000 เหรอ [Bick] 20,000 for the robot?
[บิ๊ก] 20,000 สำหรับหุ่นยนต์เนอะ [Mai] And the other one would be
extremely expensive, like 500,000?
[ไหม] ส่วนอีกอันน่าจะแพงหูฉีกประมาณ 500,000 [Bick] Let's see the price on them.
[บิ๊ก] ขอดูราคาครับ [Mai] HA! Real close, right?
[ไหม] ฮ่า! ใกล้เคียงสุดๆ But this one is 50,000 baht,
แต่อันนี้ 50,000 บาท half of my salary.
เงินเดือนไหมครึ่งนึง I’d better be by myself!
อยู่คนเดียวไปดีแล้วเรา! Poor me.
น่าสงสารจังเรา [Bick] Yeah, it's so expensive these days.
[บิ๊ก] ใช่เลย ของแพงมากสมัยนี้ But maybe you have to wait for like
the 11.11 sale or something like that.
คุณอาจจะต้องรอโปร 11.11 หรืออะไรแบบนั้น Prices might go down.
ราคาอาจถูกลง [Mai] Very cool advice.
[ไหม] คำแนะนำดีมากค่ะ [Bick] And yeah, 300,000 baht for a TV.
[บิ๊ก] ส่วนทีวีก็ 300,000 บาท [Mai] Who wants a transparent TV set?
[ไหม] ใครจะอยากได้ทีวีโปร่งแสงกันเนี่ย Who?
ใคร [Bick] But it's cool to show off.
[บิ๊ก] แต่มันเจ๋งที่ได้อวดนะ I mean, if your friend comes over.
ถ้าเพื่อนมาบ้านงี้ [Mai] And then?
[ไหม] แล้วไงต่อคะ [Bick] You would be like, "Look at my advanced TV."
[บิ๊ก] ก็พูดได้ว่า “ดูทีวีสุดล้ำของฉันสิ” [Mai] Of course, if your room
or your house is open to the view,
[ไหม] ก็ได้ถ้าห้องหรือบ้านคุณมีวิวภายนอกสวยๆ you could put a transparent TV.
ก็วางทีวีโปร่งใสได้ But if you're in a small room, if it's transparent,
แต่ถ้าอยู่ในห้องเล็กๆ แล้วมันโปร่งใส you'll see…
ก็จะเห็น… [Bick] Your closet
[บิ๊ก] ตู้เสื้อผ้า or the treadmill that you didn't use.
หรือลู่วิ่งไฟฟ้าที่คุณไม่ได้ใช้แล้ว Yeah, okay, good point, good point.
ใช่เลย โอเค ดีครับ So, money will be spent on the robot.
ฉะนั้น ลงเงินไปกับหุ่นยนต์ครับ Congratulations!
ยินดีด้วย! เงินเดือนครึ่งเดือนเนาะ [Mai] ครึ่งเดือนเลยทีเดียว [Bick] ตั้งใจเก็บตังค์กันต่อไปครับ Do we have more to shop from?
มีอะไรให้ชอปอีกไหม I think this is the last item on our shopping spree today.
ผมว่าอันนี้น่าจะชิ้นสุดท้ายของช่วงชอปแหลกของเราแล้ว So, collectibles.
ของสะสม Of course, they're going to be expensive.
แน่นอนว่าต้องแพง I don't know how much,
ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ but that's an authentic Van Gogh on the right.
แต่ทางขวานั่นภาพวาด แวนโก๊ะ ของจริง Imagine you have that kind of money,
จินตนาการว่าคุณมีเงินขนาดนั้น and then we have this super up-and-coming
and very trendy right now,
แล้วเราก็มีสิ่งที่กำลังฮอตฮิตติดกระแสสุดๆ like the art collectible toys.
อย่างของเล่นหุ่นยนต์ของสะสม [Mai] What's it called?
[ไหม] ชื่ออะไรนะคะ [Bick] Pop Mart.
[บิ๊ก] ป๊อปมาร์ท [Mai] Pop mart?
[ไหม] ป๊อปมาร์ท [Bick] Pop mart is the name of the place.
[บิ๊ก] ป๊อปมาร์ทคือชื่อร้านครับ Very famous.
ดังมากๆ [Mai] Yes, I will go for the Pop Mart toys.
[ไหม] โอเค ไหมขอเลือกของเล่นจากป๊อปมาร์ท [Bick] Really? You won't invest and
spend to own the original Van Gogh?
[บิ๊ก] จริงเหรอ คุณจะไม่เลือกลงทุน
และเป็นเจ้าของภาพวาดแวนโก๊ะเหรอ [Mai] It might not fit in my condo, I mean…
[ไหม] ไม่เหมาะกับคอนโดไหมค่ะ [Bick] ตั้งไว้ข้างๆ treadmill ที่ไม่ได้ใช้อันนั้น [Mai] The color doesn't fit well, so…
[ไหม] สีนี่ไม่เข้าเลย เพราะงั้น… maybe I'll go for the toy,
อาจจะขอไปทางของเล่นดีกว่า too bad.
เสียดายนะ [Bick] Yeah, the color wouldn't look good in your place.
[บิ๊ก] สีไม่เข้ากับบ้านคุณเนอะ Okay, so you would go for that?
โอเค คุณเลือกของเล่นนะ [Mai] I've heard from Dr. Keng Wayo.
[ไหม] ไหมได้ยินมาจากหมอเก่ง-วาโย He's a collector, a toy collector.
เขาเป็นนักสะสมของเล่น He's always on the auction for new toys all the time.
เขาจะคอยประมูลของเล่นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา And he said that you could make
lots of profit by collecting these toys,
เขาบอกว่าของเล่นพวกนี้นี่ทำกำไรได้เยอะนะคะ maybe it's a good way.
อาจจะเป็นการดี [Bick] Yeah, did you see the news?
Like, the first day that Pop Mart opened
[บิ๊ก] ใช่ครับ เห็นข่าวไหม วันแรกที่ป๊อปมาร์ทเปิด and people were lining up
in front of the store, waiting to get in?
คนต่อแถวหน้าร้านรอเข้า Like, a huge amount of people are into this.
คนมหาศาลมากๆ ที่อินกับสิ่งนี้ And then once the store opened,
พอร้านเปิดปุ๊บ they were racing to get the item that they wanted.
ก็วิ่งแข่งกันไปจับจองสิ่งที่ต้องการ [Mai] So, something that
the price is reachable? Like, I mean…
[ไหม] ถ้างั้นราคามันก็เข้าถึงได้เหรอ [Bick] Yeah, I think…
Okay, let's see the price.
ใช่ครับผมว่างั้นนะ มาดูราคากัน Would you like to guess for this specific toy?
คุณอยากเดาราคาเจ้าตัวนี้ไหม [Mai] I would say 120,000.
[ไหม] ขอเดาว่า 120,000 [Bick] 120,000, okay.
[บิ๊ก] 120,000 เหรอ โอเค And for this sunflowers?
แล้วดอกทานตะวันนี้ล่ะ [Mai] Too many zeros.
[ไหม] ศูนย์หลายตัวแน่ๆ [Bick] อันนี้อาจจะเกินงบกระทรวง [Mai] 10 to the power of 6.
[ไหม] 10 ยกกำลัง 6 12 times 10 to the power of 12.
12 คูณ 10 ยกกำลัง 12 [Bick] It can be a national budget, too.
[บิ๊ก] อาจจะเป็นงบประมาณชาติได้นะครับ Let's see the price on
the toy and the art piece, please.
ขอดุราคาของเล่นและศิลปะ You're right, that's 3.4 billion.
คุณถูก 3.4 พันล้าน [Mai] This is almost the budget of the Ministry of Industry.
[ไหม] นั่นเกือบเท่างบกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วนะคะ This one is 50,000.
อันนี้ 50,000 [Bick] What do you think?
Would you spend your money on this?
[บิ๊ก] คุณคิดยังไงครับ จะยอมเสียเงินกับสิ่งนี้ไฟม [Mai] No,
[ไหม] ไม่ค่ะ half the salary,
เงินเดือนไหมครึ่งนึง so I have to save up for the Scandinavian trips
ไหมต้องเก็บเงินสำหรับเที่ยวสแกนดิเนเวีย and what else that around this?
แล้วอะไรอีกนะ [Bick] The robot?
[บิ๊ก] หุ่นยนต์เหรอ [Mai] The robot thing, so this one,
you are at the back on the line.
หุ่นยนต์ แล้วก็อันนี้นี่ต่อคิวท้ายสุดเลย [Bick] ต้องไปกินข้าวกล่องที่พรรคนะครับ แล้วก็เก็บเงินมาซื้อของเหล่านี้ [Mai] That was fun.
[ไหม] สนุกจังเลย [Bick] Too many things to buy
[บิ๊ก] ของมันต้องซื้อหลายอย่าง and so little money to spend.
แต่มีเงินน้อยนิดเหลือเกิน [Mai] It's fun.
[ไหม] สนุกดีค่ะ You can get to know someone better by doing this, all that.
ช่วยให้รู้จักอีกคนได้ดีขึ้นเยอะเลยนะ [Bick] So, how rich do you want to get?
[บิ๊ก] คุณอยากรวยแค่ไหนครับ [Mai] How rich? I never thought of that.
[ไหม] รวยแค่ไหนเหรอ ไม่เคยนึกเลยแฮะ Maybe how rich…
อาจจะรวยถึงขั้น… I think if I want to go to a fancy restaurant
ไหมว่าถ้าอยากไปร้านหรูๆ that I really long for
ที่อยากไปมานาน and I go there like twice a year,
แล้วได้ไปสักปีละสองครั้ง and I don't have to think about
how much money I have to spend.
โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเงินกี่บาท That's how rich I want to be.
ไหมอยากรวยเท่านั้นค่ะ [Bick] Just twice a year? Wow!
[บิ๊ก] แค่สองครั้งต่อปีเองเหรอ ว้าว! I was thinking you were going to say like, "Uni everyday."
คิดว่าคุณจะตอบว่า “อูนิ ทุกวัน!” Like, whenever you want uni,
แบบทุกเมื่อที่อยากกิน and then you didn't even have to think about the price.
โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องราคา [Mai] So, I have to think about cholesterol.
[ไหม] แล้วไหมก็ต้องมาคิดถึงเรื่องคอเลสเตอรอล [Bick] Oh, good point.
[บิ๊ก] โอ้ จริงด้วยแฮะ All right, so it's been so much fun
talking to you and getting to know you.
เอาล่ะ ผมสนุกมากที่ได้คุยและทำความรู้จักคุณ And since our show is called "คำนี้ดี,"
ด้วยความที่รายการเราคือ “คำนี้ดี” so I'm asking this with all of our guests.
เพราะงั้นผมถามคำถามนี้กับแขกทุกคน I want to know
ผมอยากรู้ว่า if you have any favorite words in Thai or in English too.
คุณมีคำโปรดในภาษาไทยหรืออังกฤษไหมครับ Can you give us one for each?
ขอภาษาละหนึ่งคำ [Mai] English word would be,
right now, I would love to say this word:
[ไหม] ภาษาอังกฤษนี่น่าจะเป็นคำว่า… Prudence
ความรอบคอบ [Bick] Prudence, why?
[บิ๊ก] ความละเอียดรอบคอบเหรอ ทำไมล่ะ [Mai] I don't know it's…
[ไหม] ไม่รู้สิ มัน… When we talk about
the policy these days from the government,
เวลาพูดถึงนโยบายรัฐทุกวันนี้ we have to say this word quite often.
เราต้องใช้คำนี้บ่อยค่ะ I don't know why,
ไม่รู้ทำไม because we need more prudence in policy.
สาเหตุเพราะเราต้องการมีความรอบคอบในนโยบายมากขึ้น I mean, it's kind of nerdy,
อาจฟังดูเนิร์ดนะคะ but it's something that comes up in my mind.
แต่เป็นสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวค่ะ [Bick] Can you talk more about what it means,
[บิ๊ก] ช่วยขยายความถึงความหมายได้ไหมครับ and when it comes to policy,
ในด้านการทำนโยบายแล้ว what would prudence mean?
ความละเอียดรอบคอบหมายถึงอะไร Prudence is something that
we have to carefully think through something
ความรอบคอบคือการคิดอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับบางสิ่ง that has to be implemented
with caution and stuff, right?
ที่จำเป็นต้องนำไปปรับใช้อย่างระมัดระวัง It means that if we can do
the prudent policy that's well-prepared
หมายความว่าต้องมีนโยบายที่เตรียมการมาอย่างดี and thought through how you implement it in the end,
คิดมาแล้วว่าจะนำไปปรับใช้อย่างไรในท้ายที่สุด how the execution will go,
การปฏิบ้ติใช้จะเป็นอย่างไร how it will affect people's lives,
มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนอย่างไร and how it will make people's lives better.
จะช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นได้อย่างไร So, that's how we do the prudent policy.
นั่นคือวิธีการออกแบบนโยบายที่รอบคอบ [Bick] And do you have any favorite Thai words?
[บิ๊ก] มีคำโปรดในภาษาไทยไหมครับ [Mai] Thai words…
[ไหม] คำไทยเหรอ I couldn't think of one.
คิดไม่ออกเลยแฮะ [Bick] No?
[บิ๊ก] ไม่เหรอ [Mai] No.
[ไหม] ไม่ค่ะ [Bick] Or your own personal catchphrase?
[บิ๊ก] หรือคำติดปากของคุณ เคยมีใครบอกไหมว่า
คุณไหมติดคำนี้มากๆ มีไหมครับ [Mai] ช่วงนี้... Like, recently I would say, “Mind your business.”
ช่วงนี้ไหมชอบพูดคำว่า “เสล่อ” [Bick] “Mind your business.”
[บิ๊ก] “เสล่อ” [Mai] But now it's not a good word.
[ไหม] แต่มันเป็น “คำนี้ไม่ค่อยดี” [Bick] Right, it’s not quite good.
[บิ๊ก] เอ้อ คำนี้ไม่ค่อยดี [Mai] But it's very catchy,
and I want to stop saying this,
[ไหม] แต่มันติดปากมาก และไหมก็หยุดพูดไม่ได้เลย but I would say “mind your business” all the time.
จนต้องพูด “เสล่อ” ตลอดเวลา [Bick] Okay, on the contrary,
[บิ๊ก] โอเคครับ แล้วในทางกลับกัน there's a saying “not in my vocabulary”
เรามีสำนวนที่พูดว่า “ไม่อยู่ในคลังคำศัพท์ฉัน” or “not in my dictionary,”
หรือ “ไม่อยู่ในพจนานุกรมของฉัน” so it would mean something that you don't believe in
อาจเป็นสิ่งที่คุณไม่เชื่อ or don't believe to be
your values, beliefs, or preferences.
หรือไม่คิดว่าเป็นคุณค่า ความเชื่อ หรือความชอบ It's something that you wouldn't tolerate, to be short.
หรือสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือสิ่งที่คุณจะไม่ทน So, I was wondering,
ผมสงสัยว่า what words are not in Sirikanya's vocabulary?
มีคำอะไรบ้างที่ไม่อยู่ในคลังคำศัพท์ของคุณไหม ศิริกัญญา [Mai] My dictionary…
[ไหม] พจนานุกรมของไหมเหรอ… If I could take away one word from my dictionary,
ถ้าสามารถเลือกหยิบออกได้หนึ่งคำจากพจนานุกรม I would take the word 'prejudice'.
ขอหยิบคำว่า ‘อคติ’ ค่ะ [Bick] Prejudice.
[บิ๊ก] อคติ [Mai] It's something that I've got a lot over the past year.
[ไหม] เป็นสิ่งที่ไหมเจอมาเยอะตลอดปีที่ผ่านมา People who don't really know me
judge me or prejudge me beforehand,
คนที่ไม่รู้จักไหมดีมักจะตัดสินหรือด่วนตัดสินไหมไปก่อน before they know who I am.
ก่อนที่จะรู้ว่าไหมเป็นใคร They just read my résumé and judge me,
แค่อ่านประวัติไหม แล้วก็ตัดสินเลย they just listen to
one interview of mine and then judge me.
ฟังสัมภาษณ์เดียวแล้วก็ตัดสินไหมเลย So, it's kind of prejudice
that I don't want to be…
เป็นอคติที่ไหมไม่อยากให้… I don't want it to be in my dictionary.
ไหมไม่อยากให้มีอยู่ในพจนานุกรม [Bick] Wow, thank you so much
Khun Mai for coming to knd,
[บิ๊ก] ว้าว ขอบคุณคุณไหมมากๆ ที่มา “คำนี้ดี” and we have learned a lot about you
พวกเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณเยอะมาก and about what you stand for.
และสิ่งที่คุณยืดหยัดต่อสู้ I wish you the best in your political journey,
ขออวยพรให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางการเมือง and we are rooting for you.
พวกเราเป็นกำลังใจให้ And of course, no matter what party,
และแน่นอนว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่พรรคไหน we are happy that
พวกเราดีใจที่ we will have quality and hardworking
politicians for us, the Thai people.
คนไทยจะได้มีนักการเมืองที่ขยันและมีคุณภาพ Thank you so much for your hard work.
ขอบคุณสำหรับการขยันทำงานหนักของคุณมากๆ ครับ [Mai] Thank you so much.
[ไหม] ขอบคุณมากๆ ค่ะ Could I have some time?
ขอเวลาสักแป๊บได้ไหมคะ Because I want to tell this that
เพราะไหมอยากจะบอกว่า I'm a big fan of you, P'Bick,
ไหมเป็นแฟนคลับตัวยงของพี่ค่ะ พี่บิ๊ก since you were DJ Bick of 'Radio No Problem.'
ตั้งแต่สมัยพี่เป็นดีเจบิ๊กแห่ง ‘Radio No Problem’ “FM 88 Radio No Problem” You know what, as I said,
I come from a not-so-wealthy family,
อย่างที่บอกว่า ไหมมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก so that was the only way
I could expose myself to English programs
วิทยุของพี่เป็นวิธีเดียวที่ไหมสัมผัสรายการภาษาอังกฤษ by listening to Radio No Problem.
ผ่านการฟังวิทยุ Radio No Problem And…
แล้วก็… I've even been to an English Summer Camp
by Radio No Problem.
ไหมเคยไปค่ายอังกฤษฤดูร้อนของ Radio No Problem ด้วย [Bick] Are you kidding me?
[บิ๊ก] ล้อเล่นปะเนี่ย You were?
เคยไปเหรอ [Mai] With you, so we met before.
[ไหม] กับพี่เลย เพราะงั้นเราเคยเจอกันแล้วค่ะ [Bick] I did not know about this.
[บิ๊ก] นี่ไม่รู้มาก่อนเลยนะ [Mai] 30 years ago.
[ไหม] 30 ปีก่อนเหรอ [Bick] Really?
[บิ๊ก] จริงดิ Because, yeah, I still remember those camps,
like the English summer camp.
เพราะว่าใช่ พี่จำค่ายอังกฤษฤดูร้อนได้ At least we had like twice in our time?
เราน่าจะเคยจัดอย่างน้อยสองครั้งแหละ [Mai] I was in the first one with…
[ไหม] ไหมไปครั้งแรกกับ [Bick] Oh my god, why didn't you tell me?
[บิ๊ก] โธ่! ทำไมไม่บอกก่อน [Mai] เจ มณฑล จิรา พลอย เฌอมาลย์ ขันที [Bick] พลอย เฌอมาลย์ สมัยที่ยังไม่ได้ดังเลย [Bick] ยังเป็นน้องตัวเล็ก
[Mai] She was 12 years old.
[ไหม] น่าจะอายุ 12 ปี [Bick] She was very young.
[บิ๊ก] ยังเด็กมากๆ You were on that trip!?
ไหมไปด้วยเหรอ! [Mai] So you should dig through your album,
maybe you can find me.
[ไหม] ถ้าพี่กลับไปขุ้ยอัลบัมรูปดูอาจเจอไหมนะ [Bick] So this is a real huge surprise,
[บิ๊ก] เซอร์ไพส์สุดๆ เลย and thank you so much for coming.
ขอบคุณมากๆ นะครับที่มา I'm so glad that we get to meet again.
ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง [Mai] Of course, I'm so happy and
excited to see you again.
[ไหม] แน่นอนค่ะ ดีใจและตื่นเต้นที่ได้เจอพี่อีกครั้ง [Bick] Thank you so much Khun Mai.
[บิ๊ก] ขอบคุณมากๆ ครับคุณไหม I had fun.
ผมสนุกมาก [Bick] สวัสดีครับ
[Mai] สวัสดีค่ะ